พรรคภูมิใจไทย 8 พ.ค.-พรรคภูมิใจไทย โต้ ‘ทีดีอาร์ไอ’ แก้ไขข้อสังเกต หลังระบุนโยบายพรรคใช้เงินมากสุดถึง 1.9 ล้านล้านบาท ทำเสียคะแนนนิยม ยันใช้งบฯรัฐเพียง 2.23 แสนล้านบาท ที่เหลือมาจาก เอกชนทั้งในและต่างประเทศ-แก้กฎหมาย แจง ‘โครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง’ ใช้วิธี PPP ด้าน ‘พุทธิพงษ์’ ติงถูกบิดเบือน มั่นใจใช้เงินรัฐไม่ติด 1ใน 5 ของพรรคการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทย(ภท.) มีการแถลงชี้แจงกรณีที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) ออกมาระบุถึงนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งปี2566 ของพรรคภูมิใจไทยใช้งบประมาณมากที่สุด จำนวน 1.9 ล้านล้านบาท โดยมีนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกทม. พรรคภูมิใจไทย และน.ส.เพียงออ เลาหะวิไลย นักวิจัยมูลนิธิสถาบันเพื่อพัฒนานวัตกรรม Innova Foundataion อาจารย์วิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันชี้แจง
โดย น.ส.เพียงออ กล่าวว่า นโยบายของพรรคภูมิใจไทยมีทั้งสิ้น 21 นโยบาย ไม่ได้อาศัยงบประมาณการลงทุนจากรัฐเพียงอย่างเดียว แต่จะหางบประมาณจากแหล่งอื่น ได้แก่ ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการแก้กฎหมาย อาทิ นโยบายพักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอก ใช้งบฯจากแหล่งอื่นด้วยการระดมเงินจากประชาชน และลงทุนออกพันธบัตร 4 รุ่น จำนวน1.6 ล้านล้านบาท จะสามารถสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเมื่อจบโครงการจำนวน 4.79แสนล้านบาท,โครงการเงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท เพื่อคนไทย ใช้งบฯจากแหล่งอื่นเช่นกันจำนวน 2.5 ล้านล้านบาท ด้วยการแก้กฎหมายของกระทรวงการคลัง เพื่อเปิดโอกาสสถาบันการเงินอื่นๆ (Non Bank) และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เข้ามาเปิดโอกาสให้ประชาชนมากขึ้น จากเดิมที่จำกัดเพียงไม่กี่สถาบันการเงิน
น.ส.เพียงออ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีนโยบายแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง สร้างเศรษฐกิจไทยมั่งคั่ง ใช้งบฯ จากแหล่งอื่น จำนวน 1 ล้านล้านบาท ใช้วิธีการส่งเสริมการลงทุนร่วมกันระหว่างรัฐกับเอกชน หรือ PPP ซึ่งจะได้ผลตอบแทน 1.3 ล้านล้านบาท เป็นต้น รวมถึงโครงการส่งภาษีสู่บ้านเกิดเมืองนอน ไม่ต้องใช้งบฯ รัฐ แต่เป็นการจัดสรรภาษีกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ใครที่มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดไหน ก็จะส่งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจำนวน 30 % ของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลงสู่ท้องถิ่นโดยตรง ขณะที่นโยบายที่ใช้การลงทุนของภาครัฐ คือกองทุนประกันชีวิตผู้สูงอายุ จำนวน 37,098 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม สำหรับ 21 นโยบายพรรคภูมิใจไทย ใช้งบฯ จากภาครัฐจำนวน 223,629 ล้านบาท งบฯจากแหล่งอื่น 7,225,880 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 7,449,509 ล้านบาท ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเฉพาะส่วนรัฐ 6,138,892 ล้านบาท และผลตอบแทนมากกว่าการลงทุน 5,915,262 ล้านบาท
ด้านนายศุภชัย ยืนยันว่านโยบายของพรรคได้ผ่านการศึกษาร่วมกับนักวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี แล้วว่าสามารถทำได้จริงไม่เป็นภาระกับรัฐและประชาชน ผ่านทั้ง 21 นโยบายของพรรค ยึดแนวทางเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาสให้ประชาชน และสร้างโอกาสให้ประเทศเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ทีดีอาร์ไปดูตัวเลขคลาดเคลื่อน และระบุว่านโยบายของพรรคภูมิใจไทยใช้งบประมาณมากที่สุด เป็นการเข้าใจผิด เพราะไปดูตัวเลขสุดท้าย โดยไม่ได้ไปดูแหล่งที่มาของเงิน ซึ่งหลายโครงการพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ใช้งบประมาณของประเทศ ทั้งที่เราใช้งบประมาณของรัฐเพียง 223,629 ล้านบาท ไม่ใช่ตัวเลขที่ทีดีอาร์ไอบอกไว้ว่าพรรคภูมิใจไทยต้องใช้เงินถึง 1.9 ล้านล้านบาท สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง ยืนยันว่าเราไม่ใช่งบฯ แต่จะเชิญเอกชนเข้ามาลงทุนเหมือนโครงการอีอีซี รวมทั้งออกกฎหมายเขตพัฒนาพิเศษภาคใต้
“ขณะนี้ได้ทำหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับการใช้งบประมาณไปให้ทีดีอาร์ไอแล้ว ระหว่างนี้ที่กำลังดูข่าว อยากเรียกร้องให้ทีดีอาร์ไอที่เป็นสถาบันที่เป็นที่ยอมรับของประเทศ ช่วยแก้ไขข้อมูลที่เผยแพร่มาก่อนหน้านี้ เพราะมันมีผลต่อคะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทย ก็ฝากท่านไปดูตัวเลขใหม่ ขอย้ำว่านโยบายของพรรคภูมิใจไทยเป็นการลดรายจ่าย สร้างรายได้ สร้างโอกาสให้ประชาชน โดยไม่ให้กระทบต่องบประมาณแผ่นดิน เราใช้งบฯน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหลายๆ พรรคการเมือง รวมทั้งนโยบายของพรรคยังสร้างรายได้เข้ามาอย่างมหาศาลอีกด้วย” นายศุภชัย กล่าว
ขณะที่นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า มีการบิดเบือนงบประมาณเกี่ยวกับการผลักดันนโยบาย ซึ่งทุกนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ได้คำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง หลายโครงการไม่ได้เป็นรูปแบบใหม่ หรือรัฐต้องมาลงทุนเต็ม พรรคภูมิใจไทยเน้นนโยบายที่ไม่ใช่ประชานิยม นโยบายนอกจากทำได้จริงแล้วยังเป็นประโยชน์ต่อประชาชน สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง ที่ทีดีอาร์ไอออกมาระบุว่าพรรคภูมิใจไทยใช้งบฯ1.7ล้านล้านบาท ข้อเท็จจริงไม่ได้ใช้งบประมาณเลย หากไปดูพรรคการเมืองอื่นมีการใช้งบณที่มากกว่านี้ ถ้าทีดีอาร์ไอใช้มาตรฐานเดียวกัน ตนมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยใช้งบฯไม่ติด1ใน5ของพรรคการเมืองที่ใช้งบประมาณมากที่สุด.-สำนักข่าวไทย