เหยื่อ “แอม ไซยาไนด์” ส่อพุ่งถึง 20 ราย

กรุงเทพฯ 29 เม.ย. – ตํารวจเร่งตรวจสอบคดี “แอม ไซยาไนด์” เหยื่อส่อพุ่งถึง 20 ราย เนื่องจากพบผู้เสียชีวิตหลังโอนเงินเข้าบัญชีแอมไม่นาน ยันพยานหลักฐานแน่นหนา เอาผิดผู้ต้องหาได้


วันนี้ (29 เม.ย. 66) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยความคืบหน้าคดีนางสรารัตน์ หรือ “แอม ไซยาไนด์” ผู้ต้องหาวางยาฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.ศิริพร หรือ ก้อย เท้าแชร์ อายุ 33 ปี ว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก พยานหลักฐานแน่นหนาพอสมควร เชื่อว่าสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้

ขณะที่การสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ ในวันนี้พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. เชิญนายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อในคดีดังกล่าว เข้าให้ปากคำบางประเด็นเพิ่มเติมเพื่อประกอบสำนวน ส่วน น.ส.นก พยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านธนบุรี จะเข้าให้ปากคำในวันพรุ่งนี้ (30 เม.ย.) ถือเป็นพยานบุคคลสำคัญอีกหนึ่งราย จัดอยู่ในกลุ่มเพื่อนสนิทของนางสรารัตน์ หรือแอม และมักพูดคุยปรึกษาปัญหาเรื่องชีวิตด้วยกัน เช่นเดียวกับ น.ส.จอย พยานที่เคยให้การไปก่อนหน้านี้ จึงเชื่อว่าคำให้การของ น.ส.นก จะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีนี้ โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับวงแชร์และพฤติกรรมส่วนตัวของผู้ต้องหา


ภายหลังจับกุมแอม เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงร่วมกันสืบสวนสอบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาพยานหลักฐานความเชื่อมโยงของแต่ละคดีที่นางแอม เข้าไปมีส่วนพัวพันหรือเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตปริศนาของเหยื่อทั้ง 13 ราย รวมถึงเหยื่อที่ถูกวางยาแต่รอดชีวิตมาได้ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจำนวนผู้เสียชีวิตรวมแล้วน่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเส้นทางการเงินของนางแอม ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตรวจสอบพบความผิดปกติ มีบุคคลจำนวนมากโอนเงินเข้ามายังบัญชีธนาคารของนางแอมตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท และในจำนวนคนที่โอนเงิน 18-20 คน ได้เสียชีวิตลงหลังจากโอนเงินได้ไม่นาน โดยมีทั้งบุคคลที่เคยปรากฏรายชื่อเป็นผู้เสียชีวิต และบุคคลที่ยังไม่เคยปรากฏรายชื่อ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบให้แน่ชัดว่า ผู้เสียชีวิตรายใหม่ประมาณ 5-7 รายนั้น จะเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาด้วยหรือไม่

ทั้งนี้จากแนวทางสืบสวนพบว่า หลังจากผู้ต้องหาลงมือฆ่าเหยื่อจนเสียชีวิตแล้ว สิ่งแรกที่ทำคือการทำลายหลักฐานเพื่ออำพรางคดี ซึ่งสอดคล้องกับพยานวัตถุ โทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่ตรวจยึดได้จากนางแอม นอกจากนี้ยังพบว่า นางแอม มักเลี่ยงที่จะติดต่อสื่อสารกับเหยื่อผ่านโทรศัพท์โดยตรง แต่จะใช้การโทรหรือพิมพ์ข้อความสนทนาผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์เป็นหลัก เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่

อย่างไรก็ตาม จากพยานวัตถุ ประจักษ์พยาน หลักฐานต่างๆ รวมไปถึงพยานแวดล้อม ล้วนสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อรูปคดีและช่วยเพิ่มน้ำหนักให้สามารถเชื่อมโยงแต่ละคดีเข้าหากันได้เป็นอย่างดี .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่