“เพื่อไทย” ติวเข้มผู้สมัคร ส.ส.ปรับกลยุทธ์หาเสียง

พรรคเพื่อไทย 26 เม.ย.- “เพื่อไทย” เปิดห้องติวเข้มผู้สมัคร ส.ส. ปรับกลยุทธ์หาเสียง “แพทองธาร” ขออย่าประมาทแม้โพลพรรคนำ ขอขยันลงพื้นที่-เน้นใช้โซเซียลฯ มากขึ้น ยันไม่ต้องกังวลคู่แข่ง ด้าน “สมศักดิ์” ฟันธง 80% ชนะแล้ว เตือนระวังทุจริตเลือกตั้ง จี้ เน้นย้ำประชาชนเลือกเพื่อไทยทั้ง 2ใบให้ติดหูโค้งสุดท้าย


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประชุมติวเข้มผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทยผ่านระบบออนไลน์ เพื่อปรับกลยุทธ์หาเสียง ร่วมกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีต รมว.อุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีต รมว.ยุติธรรม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช แกนนำพรรค และนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. โดยมีผู้สมัคร ส.ส.เข้าร่วมอย่างคึกคักกว่า 200 คน

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อยากให้ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนเข้าสภาทั้งหมด วันนี้เลยมาให้กำลังใจ พร้อมขอขอบคุณที่ทุกคนยังอยู่กับพรรค เพื่อช่วยกันเปลี่ยนแปลงให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยขณะนี้โพลของพรรคเพื่อไทย ดีมาก ทำให้ทุกคนมีกำลังใจ แต่ไม่อยากให้ประมาท เพราะอีกกว่า 20 วัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ จึงขอให้ทุกคนเร่งลงพื้นที่นำเสนอนโยบายกับประชาชน แต่ไม่ต้องกังวลพรรคคู่แข่ง เนื่องจากเขาไม่มีศักยภาพเหมือนเรา จึงเล่นแต่ใน โซเชียลมีเดีย ทำให้โพลบางสำนักขยับขึ้น ดังนั้น ในช่วงใกล้โค้งสุดท้าย ผู้สมัครทุกคน ก็ต้องเน้นใช้โซเชียลฯ สื่อสารกับประชาชนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้ทุกคนรู้ว่า พรรคเพื่อไทย มีศักยภาพเปลี่ยนแปลงคนทั้งประเทศได้


ขณะที่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จากโพลที่บางพรรคการเมืองขยับขึ้นนั้น ตนมองว่า พรรคเพื่อไทย มียุทธศาสตร์ที่ชนะได้คือ พื้นที่ เนื่องจากเราแข็งในพื้นที่กว่ามาก จึงขอให้ผู้สมัครทุกคนไม่ต้องกังวล แต่ก็ขอให้เพิ่มพื้นที่ในโซเชียลมีเดียให้มากขึ้น เพื่อสื่อสารนโยบายของพรรคกับพี่น้องประชาชน โดยตนดูแววตาผู้สมัครวันนี้แล้ว มีความมั่นใจมากว่า จะได้ผู้แทนเข้าสภาจำนวนมาก พร้อมเน้นย้ำ ให้ผู้สมัครทุกคนช่วยสังเกตุการณ์การทุจริตเลือกตั้งด้วย เช่น การเก็บบัตรประชาชน รวมถึงการปลอมบัตรเลือกตั้ง ซึ่งหากพบเห็น ขอให้แจ้งมาที่ส่วนกลางของพรรคอย่างเร่งด่วน

นายสุริยะ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่กับนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ทั่วทุกภาค พบว่า เสียงตอบรับเรื่องนโยบายดีเกินคาด เพราะคิดว่าประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นผู้สมัครทุกคน ต้องเร่งลงพื้นที่ให้สม่ำเสมอ โดยลงให้หนักเป็น 2 เท่า เพราะเราจะประมาทไม่ได้ เนื่องจากคู่แข่งของเรามีปัจจัยอื่นช่วยจำนวนมาก เราจึงต้องสู้ด้วยนโยบาย ส่วนขณะนี้ เราจะเห็นโพลสำนักต่างๆ บางพรรคการเมืองมาแรงขึ้น แต่จากข้อมูลของเรา พรรคเพื่อไทย ชนะได้ตามเป้า เกิน 250 เสียงแล้ว และจะไปถึงเป้าหมาย 310 เสียง ซึ่งถึงแม้บางพรรคในโซเชียลฯ จะมาแรง แต่อย่าไปตกใจ เพราะส.ส.แบบแบ่งเขต ยังมาในลำดับที่ 2 โดยพรรคเพื่อไทย ยังชนะอยู่

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มั่นใจว่าผู้สมัคร 80% ในห้องนี้ เป็น ส.ส.แล้ว แต่จากที่ตนลงพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ได้เห็นสิ่งที่กังวลคือ พรรคการเมืองอื่น เขาใช้ปัจจัยจำนวนมากสู้ ถึงแม้เขาจะแพ้ในโพล แต่ก็จะทุ่มใส่ ซึ่งถ้าเราเผลอไม่ระมัดระวัง ก็อาจจะโดนแซงได้ ดังนั้น ผู้สมัครทุกคน ต้องป้องกันด้วยการทำความเข้าใจกับประชาชน ทั้งนโยบายของพรรค และประเด็นแลนด์สไลด์ ที่ต้องเลือกทั้งส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ เพื่อให้ชนะเสียง 250 ส.ว. โดยอย่าปล่อยให้พี่น้องประชาชนหลงเชื่อบางพรรค ที่ให้เลือกบัตรสีเขียวพรรคเพื่อไทย แต่ส.ส.เขตให้เลือกพรรคเขา ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น พรรคเพื่อไทย จะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะจะได้แต่ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่มี 100 คนเท่านั้น จึงต้องเร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน


“เราต้องอธิบายเรื่องนี้ให้ติดหูพี่น้องประชาชน ในช่วงใกล้โค้งสุดท้าย พร้อมอธิบายควบคู่กับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ รวมถึงอยากให้ช่วยนำเสนอนโยบายปราบปรามยาเสพติดของพรรคเพื่อไทย ที่ตนได้วางรากฐานไว้อย่างเข้มข้นแล้ว ด้วยการแก้กฎหมายเป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด มีผลบังคับใช้ 9 ธ.ค.64 เพื่อเน้นยึดอายัดทรัพย์ของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งจะทำให้พี่น้องประชาชน เห็นภาพว่า พรรคเพื่อไทย สามารถแก้ปัญหายาเสพติดได้” นายสมศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการประชุมพบว่า ผู้สมัคร ส.ส.ส่วนใหญ่ ได้สะท้อนปัญหาการซื้อเสียงจำนวนมาก ซึ่งบางพื้นที่ มีการเก็บบัตรประชาชน เพื่อให้ไปเลือกตั้งล่วงหน้า จึงเสนอแกนนำพรรคให้ช่วยเฝ้าจับตาดูการทุจริตอย่างใกล้ชิด ซึ่งแกนนำพรรคได้ขอให้ผู้สมัครทุกคนที่มีข้อมูลการทุจริต ส่งมาที่ส่วนกลางของพรรค เพื่อรวบรวมดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”