สวนสยาม 20 เม.ย.- พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ครั้งแรก “อุ๊งอิ๊ง” ย้ำต้องเลือกอย่างมียุทธศาสตร์ทั้งคนทั้งพรรคแบ่งใจไม่ได้ ด้าน “เศรษฐา” โว นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดนโจมตี เพราะกลัวคนเลือกเพื่อไทย อ้อนเลือก กทม. ทั้ง 33 เขต
พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัย “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพ” ที่ลานสวนสยาม เขตคันนายาว ซึ่งถือเวทีปราศรัยครั้งแรกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กลับจากการเดินสายหาเสียงในพื้นที่จังหวัดภาคอีสานเพื่อมาขึ้นเวทีปราศรัยที่ กทม.วันนี้ด้วยตัวเอง เดินทางกลับไปตรงพื้นที่ภาคอีสานต่อวันทีในวันเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะรณรงค์หาเสียงกรุงเทพมหานครพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สมัคร ส.ส. กทม. ของพรรคเพื่อไทย โซนตะวันออกทั้ง 10 เขต ร่วมเวทีปราศรัย โดย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชน มารับฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่
โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ปราศรัยผ่านวิดีโอคอลว่า ตนดีใจที่ได้เจอพี่น้องผ่านเทนโนโลยี ตอนนี้ท้อง 9 เดือนแล้วใกล้คลอดเต็มทีแต่ใจยังสู่อยากเจอพี่น้องด้วยตัวเอง วันนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วที่จะเข้ามาแก้ปัญหาคาราคาซังของประชาชน นโยบายของพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ จะทำให้กรุงเทพฯกลับมาหน้าอยู่ เป็นเมืองแห่งโอกาสของคนไทยทุกคน ทั้งเรื่องดิจิทัลวอเลต ค่าแรง เขตธุรกิจใหม่ ลดกฎเกณฑ์ข้อกฎหมาย เสริมด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และเรายังมีนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ยืนยันเราทำได้แน่นอน นโยบายดีดีใครก็พูดได้แต่พูดแล้วทำได้คือเพื่อไทย แต่ถ้าเราไม่แลนด์สไลด์เราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ อาจได้นายกฯคนเดิม ถ้าอยากได้นายกฯคนเดิม เศรษฐกิจเหมือนเดิม เราไม่มาขอแลนด์สไลด์ แต่วันนี้เราขอให้เลือกอย่างมียุทธศาสตร์เพื่อแลนด์สไลด์ปิดสวิต ส.ว. ปิดสวิต 3 ป. และจะเกิดไม่ได้ถ้าพี่น้องแบ่งใจ แล้วนโยบายต่างๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้เราจะเป็นฝ่ายค้าน รัฐบาลจะเป็นชุดเดิม ดังนั้น 14 พ.ค.นี้ขอให้เข้าคูหากาเพื่อไทย คนกรุงเทพฯต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น มีเกียรติมีศักดิ์ศรีอีกครั้ง และเมื่อได้เป็นรัฐบาลเราจะลดรายจ่ายประชาชนทันทีที่เป็นรัฐบาล การเลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์สำคัญมาก จะแผ่วไม่ได้ แบ่งใจไม่ได้ขอให้หนักแน่นในพรรคเพื่อไทย อีกอึกใจเดียวได้เพื่อไทยเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ชีวิตต้องดีขึ้นแน่นอน
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาล จะมีการลดภาระรายจ่ายของประชาชนทันที ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่ลำบากอยู่ทุกวันนี้ เราจะลดเลยทันทีที่เป็นรัฐบาล ตนอยากให้ทุกคนเห็นว่าการเลือกตั้ง แบบมียุทธศาสตร์มีความสำคัญมาก ต่อประเทศชาติ ขอให้ทุกคนหนักแน่นในพรรคเพื่อไทย ในส.ส.เขตของพรรคเพื่อไทย พร้อมขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ อากาศช่วงนี้ไม่ค่อยดีฝุ่นเยอะ รัฐบาลก็จัดการไม่ได้ แต่หากรัฐบาลเป็นเพื่อไทยต้องมีแผนไว้หมดแล้วว่าจะทำอย่างไรกันบ้าง โดยเฉพาะกับประชาชนภาคเหนือในตอนนี้ หากได้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ ชีวิตต้องดีขึ้นแน่นอน
นายเศรษฐา ปราศรัยย้ำ นโยบายของพรรคเพื่อไทย มีเนื้อหาสรุปว่า มีคนออกมาพูดคนไม่อยากเกณฑ์ทหารเป็นคนชังชาติ การรักชาติไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นทหารอย่างเดียว พรรคเพื่อไทยมาเราสนับสนุนให้เกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ เรื่องคอรัปชั่นก็เป็นอีกเรื่องใหญ่ เพราะเป็นเหตุผลการรัฐประหารตลอด แต่แปลกใจเมื่อทำรัฐประหารเสร็จ ดัชนีชีวิตทุจริตสูงขึ้นตลอด ใครกันแน่ทุจริตคอรัปชั่น พรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับการทุจริต เงินทุกบาทต้องตกที่ประชาชน อีกเรื่องคือยาเสพติดที่ระบาดไปทุกมุมเมือง ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับการเลือกตั้ง เราจะยกเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ โดยนายกฯจากพรรคเพื่อไทยไม่ว่าเป็นใครจะนั่งหัวโต๊ะ จัดการอย่างเด็ดขาดหมดสิ้นไปภายใน 1 ปี และยึดทรัพได้อย่างรวดเร็ว และเราสนับสนุนให้คนใช้รถยนต์ไฟฟ้า ด้วยนโยบายรถไฟฟ้าต้อง 20 บาทตลอดทั้งสาย ต่อรถเมล์อีก 10 บาท รวมเป็น 30 บาทถึงเป้าหมายเรื่องสิทธิเสรีภาพในการเลือกเพศภาพ เป็นอีกเรื่องที่เราให้ความสำคัญ เราต้องมีกฎหมายรองรับให้คนอยู่ร่วมกันได้ เรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่พรรคเพื่อไทยเปิดไป ทุกคนออกมาพูดเพราะรู้ว่าโดนใจประชาชน กลัวว่าคนจะชอบแล้วมาเลือกเพื่อไทย วันนี้เราส่งข้อมูลให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เรียบร้อย หลายนโยบายที่ตนพูด ไปจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่กาทั้่งคนทั้งพรรค ขอวิงวอนว่าวันที่ 14 พ.ค. จะเป็นวันเปลี่ยนประวัติศาสตร์การเมืองไทย หวังส.ส.ทั้ง 33 เขตในกทม.ของพรรคเพื่อไทย จะได้รับการเลือกตั้งเข้าสภา วันที่ 14 พ.ค. กาทั้งคนทั้งพรรคให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์
ด้านนายดนุพร ปราศรัยระบุว่า เวลานี้พรรคเพื่อไทยโดนโจมตีสารพัด ทำให้มีการตั้งคำถามว่าพรรคจะต้องต่อสู้อย่างไร แต่ขอยืนยันว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพรรคเพื่อไทย เพราะคู่ต่อสู้ของพรรคเพื่อไทยคือ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร
“เราจะสู้กับรัฐบาลทักษิณชินวัตรเมื่อปี48 ที่ได้ที่นั่ง 371 เสียง เราจะสู้กับรัฐบาล พลังประชาชน ของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ชนะการเลือกตั้งในปี 2550 ได้ 233 เสียง และที่สำคัญคือเราต้องเอาชนะ อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ชนะการเลือกตั้งในปี 2554 ได้ 265 เสียง นี่คือคู่แข่งของเรา” นายดนุพร กล่าว
นายดนุพร ยังกล่าวอีกว่าอีกไม่ถึงเดือน จะถึงวันเลือกตั้ง อยากฝากบอกไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะรัฐบาลนี้อยู่มาหลายปีขอให้เตรียมรถกระบะ รถบรรทุก มาขนของออกจากทำเนียบในวันที่ 15 พ.ค. ส่วนทหารที่อยู่ในทำเนียบก็ขอให้กลับกรมกอง กลับไปอยู่ชายแดน ที่เกษียณแล้วก็ขอให้กลับไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน ไม่ต้องมาอยู่เป็นรั้วของทำเนียบ เพราะรั้วของทำเนียบรัฐบาลพรรคเพื่อไทยคือพี่น้องประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยโซนตะวันออก ประกอบด้วย
- นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 19 กทม.
- นายโพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 18 กทม.
- นายไพฑูรย์ อิสระเสรีพงษ์ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 17 กทม.
- น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 20 กทม.
- นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 14 กทม.
- นายธกร เลาหพงศ์ชนะ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 22 กทม.
- นายอรรฆรัตน์ นิติพน ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 21 กทม.
- นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 15 กทม.
- นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 16 กทม.
- น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 13 กทม. -สำนักข่าวไทย