สจล.ร่วมกับ มหาวิทยาลัยดังของสหรัฐ เปิดแคมปัสในไทย

กรุงเทพฯ 31 พ.ค.-สจล.ร่วมมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน เปิดเเคมปัสในไทย สอน2หลักสูตรด้านวิศวกรรมที่ได้มาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา พัฒนานักศึกษาเเละนักวิจัยสร้างนวัตกรรมใหม่ ย้ำครั้งเเรกที่ไทยร่วมต่างชาติ เด็กจะได้รับปริญญาเหมือนเรียนที่สหรัฐอเมริกา เเละเป็นโอกาสดีที่รัฐใช้ม.44 เอื้อให้ต่างชาติเปิดสอนในไทย เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างเข้มข้น


นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) พร้อมด้วยนายเจมส์ การ์เร็ต คณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน ซึ่งมีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นนำระดับโลก ร่วมแถลงข่าวภายหลังได้หารือร่วมกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อรายงานความคืบหน้าและหารือเกี่ยวกับโครงการความร่วมมือระหว่าง 2 สถาบัน เพื่อพัฒนาบุคลากรและนักศึกษาไทย ให้มีความสามารถในการสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมรองรับไทยแลนด์ 4.0 หลังได้ดำเนินการมากว่า 2 ปีเเละได้ลงบันทึกความร่วมมือกันไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา


นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า การจับมือครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยไทยที่ได้รับเกียรติ จากมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของโลกในการจัดตั้งหน่วยงานความร่วมมือในประเทศและเปิดหลักสูตรร่วมกัน เพื่อพัฒนาทักษะความสามารถ ของอาจารย์ นักศึกษาและบุคลากรภาคเอกชน ให้ทัดเทียมนานาชาติ ทั้งยังผลักดันให้ไทย ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยและนวัตกรรมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ขณะเดียวกันยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคเอกชนและบริษัทข้ามชาติ ให้มีความเชื่อมั่นในการเข้ามาสร้างฐานการลงทุนในไทย 


โดยร่วมมือผ่านการจัดกิจกรรมใน 4ด้าน คือ 1.จัดตั้งหน่วยงานร่วมกันในประเทศไทย โดยใช้ระบบบริหารจัดการระบบเดียวกับที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นครั้งเเรกที่สถาบันการศึกษาไทยได้รับเกียรติ อีกทั้งที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอนก็ได้เปิดพื้นที่หรือเเคมปัสให้อาจารย์เเละนักศึกษาไทยได้ทำงานวิจัยร่วมกันที่สหรัฐอเมริกาด้วย

2.การเปิดสอนหลักสูตรร่วมกัน ผู้เรียนจะได้รับปริญญาเหมือนกับที่เรียนสหรัฐอเมริกา เเบ่งเป็นระดับปริญญาโท 2 ปีในหลักสูตร Electrical and Computer Engineering เเละหลักสูตร Technology Ventures โดยเรียนในไทย 1 ปีเเละที่สหรัฐอเมริกา 1 ปี เพื่อพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ//เเละระดับปริญญาเอก 5 ปีในหลักสูตร Electrical and Computer Engineering เรียนในไทย 2 ปีเเละสหรัฐอเมริกา 3 ปี เพื่อพัฒนาคุณภาพของอาจารย์เเละนักวิจัยไทยให้ทีความรู้เเละทักษะทัดเทียมนานาชาติ ซึ่งทุกหลักสูตรออกเเบบโดยมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอนว่าสามารถตอบโจทย์การพัฒนาประเทศโดยจะเริ่มรับนักศึกษาในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เเละเปิดสอนเดือนสิงหาคม ปี2560

3.การจัดทำโครงการวิจัยร่วมเพื่อตอบปัญหาของประเทศไทย โดยทุกโครงการจะใช้อาจารย์หรือนักวิจัยหลักมาจากมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอนเเละมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก และ 4. การแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักวิจัยเพื่อพัฒนาทักษะให้ทัดเทียมนานาชาติ โดยกำหนดกรอบความร่วมมือ 10 ปี วางเป้าหมายผลิตนักศึกษาปริญญาโทไม่ต่ำกว่า 200 คน ปริญญาเอกไม่ต่ำกว่า 80 คน ยกระดับคุณภาพอาจารย์เเละนักวิจัยไทยให้มีมาตรฐานระดับโลก 80 คน สร้างโครงการวิจัยเพื่อต่อยอดนวัตกรรมกว่า 80 โครงการ ซึ่งนอกจากจะช่วยยกระดับคุณภาพทางการศึกษาเเล้วยังทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นด้วย ซึ่งขณะนี้ยังถือเป็นโอกาสที่ดีที่รัฐบาลเปิดช่องอำนวยความสะดวกให้สถาบันอุดมศึกษา ที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศเข้ามาเปิดการเรียนการสอนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เชื่อเป็นการกระตุ้น ให้เกิดการแข่งขันและพัฒนาคุณภาพการศึกษาภายในประเทศอย่างเข้มข้น 

“ขณะเดียวกันถือเป็นความโชคดีที่นักศึกษาไทยเเละอาจารย์จะได้เรียนรู้เรื่องการพัฒนาระบบความปลอดภัยไซเบอร์ หลังอาชญากรรมออนไลน์กำลังเเพร่หลายทั่วโลก เพราะมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอนเพิ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการคิดค้นระบบMayhem ค้นหาช่องโหว่เเละป้องกันภัยคุกคามทางออนไลน์”นายสุชัชวีร์ กล่าว

ด้านนายเจมส์ การ์เร็ต คณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน กล่าวว่า ยินดีที่ได้ทำความร่วมมือร่วมกันในครั้งนี้ เพราะสจล.เองก็ถือเป็นสถาบันที่มีความโดดเด่นด้านวิศวกรรม การได้เเลกเปลี่ยนเเละทำงานร่วมกัน จะได้องค์ความรู้ที่ดีเเละเเตกต่างเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ตอบโจทย์ไทยเเลนด์4.0เเละการพัฒนาประเทศในอนาคต

ภายหลังการเเถลงข่าวได้มีการจัดเสวนา “แนวทางพัฒนาการศึกษาไทยในด้านการวิจัยและนวัตกรรมก้าวกระโดดสู่ “ประเทศไทย 4.0” ซึ่งได้มีการเเลกเปลี่ยนถึงความร่วมมือที่ไทยเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาเปิดมหาวิทยาลัยในไทย โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารจากองค์เอกชนเข้าร่วมแลกเปลี่ยนทัศนะด้วย .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง