วอนช่วยหญิงพิการถูกหนุ่มข่มขืนจนท้องและคลอดลูก

สงขลา 30 พ.ค.-หญิงพิการถูกชายหนุ่มหมู่บ้านเดียวกันข่มขืนจนตั้งท้องและคลอดลูก กำลังเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากสภาพร่างกายไม่สามารถดูแลลูกได้และครอบครัวค่อนข้างลำบาก วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ใจบุญช่วยเหลือ


ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องนี้และทราบว่าหญิงพิการคนนี้ อายุ 41 ปี อาศัยอยู่บ้านหลังหนึ่งใน อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งร่างกายพิการมาแต่กำเนิดแขนซ้ายกุดเหลือแค่ศอก ส่วนแขนขวามีนิ้วเดียว และขาซ้ายกุดเหลือแค่ต้นขา มีเพียงขาขวาที่เดินเขย่งเวลาไปไหนมาไหน และยังมีอาการทางประสาท บางครั้งก็พูดคนเดียว ต้องกินยาต่อเนื่อง ที่สำคัญเพิ่งคลอดลูกชายได้เพียง 26 วัน หลังจากที่ถูกชายหนุ่มในหมู่บ้านเดียวข่มขืนจนตั้งท้อง ขณะนี้สภาพครอบครัวลำบากมาก อาศัยอยู่กับพี่สาวอายุ 60 ปี และหลานสาวอายุ 22 ปี ซึ่งต้องออกไปทำงานรับจ้างนอกบ้านเช้าไปเย็นกลับ


น้องสาวของหญิงการ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา พี่สาวได้เกิดปวดท้องและมีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอด จึงได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลจะนะ แต่ปรากฏว่าผลตรวจหมอบอกว่าตั้งท้องได้ 10 เดือนและใกล้คลอดปากมดลูกเปิด 5 เซนติเมตร จึงส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลาและต้องผ่าท้องเพราะคลอดเองไม่ได้ และได้ลูกชายสภาพร่างกายครบ 32 แต่ยังมีปัญหาลิ้นติดกับเหงือกล่างซึ่งแพทย์เตรียมแผนผ่าตัดรักษาอีกครั้ง

น้องสาว กล่าวว่า ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าพี่สาวตั้งท้องเพราะปกติก็จะมีรูปร่างท้วมๆ อยู่แล้วและคลุมฮีญาบเป็นประจำจึงไม่มีใครสังเกตุ รวมทั้งพี่สาวก็ไม่ได้พูดอะไร อาจเป็นเพราะไม้รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตั้งท้องหรือเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง แต่โชคดีที่เด็กปลอดภัย ขณะนี้ครอบครัวเดือดร้อนมาก เพราะพี่สาวไม่อยู่ในสภาพที่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ ตนเองต้องรับไปดูแลชั่วคราว นอกจากนี้ยังมีทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายค่านมค่าผ้าอ้อมและสิ่งของเครื่องใช้สำหรับเด็กอ่อน นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายประจำวันในครอบครัว ซึ่งญาติพี่น้องต้องช่วยกันดูแล ลำพังเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 800 บาทนั้นไม่เพียงพอ 

หากผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือให้บริจาคผ่านบัญชี น.ส.ฝาตีเหม๊าะ จิเต็น ธนาคารกรุงไทย สาขาจะนะ เลขที่บัญชี 986-0-53894-8 หรือโทรประสานงานได้ที่ตนหมายเลข 089-7384998 ซึ่งตอนนี้กำลังต้องการความช่วยเหลือด่วนมาก นอกจากนี้อยากให้ครอบครัวของผู้ที่ก่อเหตุยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วยแม้ว่าจะอยู่ในระหว่างดำเนินการทางคดีแต่ก็รู้ตัวชัดเจนแล้วว่าเป็นใครเพราะพี่สาวจำได้


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความรู้สึกของหญิงพิการ ซึ่งเธอบอกเพียงสั้นๆ ว่า รักลูกมากและอยากดูแลลูกด้วยตัวเองแต่ยังไม่พร้อมและเธอรู้ว่าใครเป็นคนกระทำและเป็นพ่อของเด็ก 

ด้านคดี พ.ต.ต.วีระ แก้วมณี สารวัตรสอบสวน สภ.จะนะ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุแล้ว ชื่อ นายศับบากี โส๊ะโหรน อายุ 22 ปี เป็นคนบ้านเดียวกันในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา แต่เป็นผู้ป่วยทางจิตขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ และได้ประสานไปยังโรงพยาบาลเพื่ออายัติตัวเอาไว้แล้วหากรักษาหายเป็นปรกติก็จะไปรับตัวมาดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง