ฮอนดูรัสตัดสัมพันธ์ทางการทูตไต้หวัน

เตกูซิกัลปา/ไทเป 26 มี.ค. – ฮอนดูรัสประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน พร้อมประกาศยอมรับรัฐบาลจีนและนโยบายจีนเดียว ขณะที่ไต้หวันก็ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับฮอนดูรัสด้วยเช่นกัน


กระทรวงการต่างประเทศของฮอนดูรัส ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ (25 มี.ค.) ระบุว่า ประธานาธิบดีอิริส ซิโอมารา กัสโตร ซาร์มิเอนโต ผู้นำฮอนดูรัส ได้แจ้งไปยังรัฐบาลไต้หวัน ถึงการตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันแล้ว และว่า ฮอนดูรัสให้การยอมรับนโยบายจีนเดียวและรัฐบาลจีนเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรมที่เป็นตัวแทนของจีนทั้งมวล แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีนที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ รัฐบาลฮอนดูรัสยืนยันจะไม่มีพันธสัญญาใดๆ ในความสัมพันธ์ หรือการติดต่อในลักษณะอย่างเป็นทางการกับไต้หวันอีกต่อไป

การประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันอย่างเป็นทางการ มีขึ้นหลังจาก เอนริเก เรนา รัฐมนตรีต่างประเทศฮอนดูรัส เดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่ง เมื่อ 2 วันก่อน เพื่อหารือเกี่ยวกับการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน และมีขึ้นเพียง 11 วัน หลังจากประธานาธิบดีของฮอนดูรัส ประกาศความพร้อมเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงตอบรับแถลงการณ์ด้านบวกของรัฐบาลฮอนดูรัส และประกาศพร้อมพัฒนาความสัมพันธ์กับฮอนดูรัส ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเสมอภาคและเคารพซึ่งกันและกัน


ด้าน โจเซฟ อู๋ รัฐมนตรีต่างประเทศของไต้หวัน กล่าวหาผู้นำของฮอนดูรัสถูกชี้นำไปในทางที่ผิด โดยการให้คำมั่นของจีนเพื่อช่วยเหลือทางการเงินต่อฮอนดูรัส และว่า ไต้หวันได้ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับฮอนดูรัสด้วยเช่นกัน

การที่ฮอนดูรัสตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน ทำให้ปัจจุบันเหลือเพียง 13 ประเทศและดินแดนที่ให้การรับรองไต้หวันอย่างเป็นทางการ หลังจาก นิการากัว เอลซัลวาดอร์ ปานามา สาธารณรัฐโดมินิกัน และคอสตาริกา ได้ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นขณะประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ของไต้หวัน มีกำหนดการเดินทางเยือนกัวเตมาลา และเบลิซ ในช่วงปลายเดือนนี้ พร้อมกับแผนแวะเยือนสหรัฐ ช่วงสั้นๆ โดยทางการไต้หวันระบุว่า ประธานาธิบดีไช่ จะออกเดินทางในวันที่ 29 มี.ค. ในภารกิจเดินทางเยือนกลุ่มประเทศในภูมิภาคอเมริกากลาง นาน 10 วัน พร้อมกันนี้ ยังจะแวะเยือนรัฐนิวยอร์ก และนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐด้วย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ