สำนักงานชลประทานฯ ย้ำ 7 จว.ลุ่มเจ้าพระยาเตรียมรับสถานการณ์น้ำ

ภูมิภาค 26 พ.ค.-ฝนที่ตกหนักส่งผลให้สำนักงานชลประทานฯ ต้องมีการพร่องน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อรองรับปริมาณฝนที่ตกหนักในช่วงสัปดาห์นี้


สำนักงานชลประทานที่ 12 ชัยนาท มีหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 2 ไปยังผู้ว่าฯ 7 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี ให้แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่อยู่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เตรียมรับสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา และเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสำนักชลประทานที่ 12 จำเป็นต้องระบายน้ำผ่านเขื่อนประมาณ 700 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เพื่อพร่องน้ำเหนือเขื่อน รองรับปริมาณน้ำฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น


ขณะที่วันนี้ เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำท้ายเขื่อน 649 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เท่ากับเมื่อวานนี้ ระดับน้ำเหนือเขื่อนที่ อ.เมืองชัยนาท ลดลงจากเมื่อวาน 33 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 15.96 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา เท่ากับวานนี้อยู่ที่ 10.15 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง


ด้านคนงานสร้างเขื่อนเรียงหินริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ระดมเครื่องจักรกลและแรงงานเสริมเขื่อนเรียงหินป้องกันน้ำท่วม ที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จอีก 2 จุด เพื่อแข่งกับปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเขื่อนเจ้าพระยาชัยนาทเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน เพื่อรองรับน้ำเหนือที่จะไหลมาสมทบ ด้าน ปภ.เตือนพื้นที่ริมแม่น้ำจ้าพระยาเตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน 

ปภ.พระนครศรีอยุธยา บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่หมู่ 5 อ.บางบาล เร่งแก้ปัญหาชาวบ้านริมตลิ่งถูกกระแสน้ำกัดเซาะบ้านเรือน หลังก่อนหน้านี้ อบจ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้ามาก่อสร้างแนวป้องกันตลิ่ง โดยใช้วิธีเรียงหินเสริมตาข่ายเหล็ก เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แต่ทำได้เพียงบางส่วน ล่าสุดได้ข้อสรุปเบื้องต้นจะดำเนินการสร้างแนวป้องกันชั่วคราวเพิ่ม ในส่วนที่เหลือให้สามารถรับมือช่วงฤดูน้ำหลากได้

ส่วนระดับน้ำในลำน้ำต่าง ๆ ของ จ.เชียงราย ก็เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยเฉพาะลำน้ำแม่เผื่อ ลำน้ำสาขาของแม่น้ำกก ได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน ต.ป่าซาง อ.เวียงเชียงรุ้ง กว่า 50 หลังคาเรือน บางจุดท่วมสูง 50 เซนติเมตร ปภ.ต้องแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยง ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหล เฝ้าระวังน้ำป่าหลาก ดินโคลนถล่ม

ฝนที่ตกลงมานานหลายชั่วโมงในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำระบายไม่ทัน ท่วมขังชุมชน และถนนหลายสาย เช่น ถนนสุริยะวงศ์ มีน้ำท่วมขัง 30-50 เซนติเมตร ส่วนบริเวณชุมชนศรีปิงเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีน้ำท่วมขังผิวจราจรเป็นระยะทางกว่า 300 เมตร บ้านเรือน ร้านค้า ริมถนน ต้องนำเก้าอี้ แผงเหล็ก มากั้นให้รถชลอความเร็ว

ส่วนที่กระบี่ เกิดน้ำทะเลหนุนสูง ที่หาดอ่าวนาง หาดนพรัตน์ธารา โดยมีคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ขณะที่เกาะไม้ไผ่ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะพีพีต้องขึ้นธงแดง แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงเล่นน้ำ นอกจากนี้ คลื่นลมแรงบริเวณอ่าวมาหยา เกาะพีพี ทำให้สปีดโบ๊ทของถูกคลื่นซัด เจ้าหน้าที่ต้องเข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติพาเข้าฝั่งอย่างทุลักทุเล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส