ตร.ร่วมกับ ม.หอการค้าไทย พัฒนาหลักสูตรอาชญากรรมไซเบอร์

กรุงเทพฯ 16 มี.ค. – ตำรวจ MOU มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มอบทุนตำรวจเรียนปริญญาตรี 200,000 บาทต่อคน ร่วมพัฒนาหลักสูตรอาชญากรรมไซเบอร์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันประชาชน


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านวิชาการ การจัดการศึกษาสำหรับข้าราชการตำรวจ ด้านทรัพยากร การฝึกอบรมและป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์ ระหว่างสำนักงานตำรวนแห่งชาติกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยมีนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นผู้แทนจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยร่วมลงนาม

ผบ.ตร. กล่าวว่า วันนี้ในส่วนของตำรวจที่มาทำ MOU กับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเนื่องจาก ทางมหาวิทยาลัยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาตลอด วันนี้ก็ได้มามอบทุนการศึกษาในหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิตให้กับตำรวจนครบาล เป็นการขยายโอกาสให้ตำรวจในพื้นที่ด้วย และยังจะมีการพัฒนาหลักสูตรร่วมกันเพื่อใช้ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ต่อไป


นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยก็ยังมีการลงนามอบรมให้ความรู้กับเจ้าหย้าที่ตำรวจเรื่องการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์ เพื่ออบรมให้ความรู้กับตำรวจที่จะกล่ยไปเป็นครูต้นแบบต่อไป เชื่อว่าจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ให้ขยายตัวกว้างขึ้น

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การทำMOU ในครั้งนี้ เรื่องเดิมที่ทำอย่างต่อเนื่องคือการให้โอกาสทางการศึกษากับกำลังพลในการเรียนด้านกฎหมายจนจบปริญญาตรีและสามารถต่อยอดไปจนถึงปริญญาโทและปริญญาเอกได้ ในอีกหลากหลายสาขา เพื่อทำให้กำลังพลพัฒนาองค์ความรู้มากขึ้น เนื่องจากปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจมีมากขึ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทยเป็นประเทศเปิดและเป็นที่ต้องการของนักลงทุนต่างชาติและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดังนั้น การเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจมากขึ้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ความร่วมมือครั้งนี้นอกจากต่อยอดเรื่ององค์ความรู้แล้ว ก็จะเป็นลักษณะของประสบการณ์และการเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างภาคธุรกิจและภาคตำรวจในการป้องกันปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาชญากรรมทางด้านไซเบอร์และอาชญากรรทางเศรษฐกิจต่าง ๆ โดยทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดหลักสูตรการเรียนรู้แบบไฮบริจ มีทั้งการเรียนในห้องและการเรียนออนไลน์ ทำให้กำลังพลและบุคคลทั่วไปสามารถเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น

โดยในการทำ MOU ตามความประสงค์ของ ผบ.ตร.อยากจะให้มีการอบรมครูต้นแบบป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีก่อน ซึ่งจะเริ่มอบรมในช่วง 1-2 เดือนนี้ หลังจากนั้นครึ่งปีหลังจะเป็นการอบรมถ่ายทอดให้กำลังพลตำรวจและนักธุรกิจที่ประสงค์จะเรียนรู้ นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยยังเชื่อมโยงกับบริษัทไอทีที่เป็นองค์กรป้องกันเรื่อง Cyber security ให้เข้ามาสร้างหลักสูตรระยะสั้นและระยะกลาง และทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยก็จะทำหลักสูตรปริญญาตรี โท เอก เกี่ยวกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งจะได้รับความร่วมมือกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญสูงสุดในประเทศไทยในการวางรากฐานในเรื่องนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง