ชลบุรี 14 มี.ค. – กองทัพเรือ สั่งระงับกิจการ รื้อถอนภายใน 30 วัน รีสอร์ตหรู 6 ห้อง บนหน้าผายอดเขาแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี สร้างโดยยังไม่ได้รับอนุญาตจากราชการ
จากกรณีที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการก่อสร้างรีสอร์ตแห่งหนึ่ง บนพื้นที่ภูเขาที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ในช่องแสมสารได้โดยรอบ จำนวน 6 หลัง แต่ละหลังมีสระน้ำ ราคาห้องละ 15,000 – 18,000 บาท/คืน ภายใน ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยภายหลังทางกองทัพเรือ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วได้มีคำสั่งให้ระงับกิจการ
วันนี้ (14 มี.ค.) พลเรือโท สุทิน หลายเจริญ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ส่งหนังสำเนาหนังสือสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ชลบุรี ที่ กค 0311.08/154 ลง 23 มกราคม 2563 เรื่อง การขอเช่าที่ดินราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ ขบ.481 (บางส่วน) และสำเนาหนังสือฐานทัพเรือสัตหีบ ที่ กห 0521/318 เรื่อง แจ้งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ลงวันที่ 14 มีนาคม 2566 ให้กับทางอำเภอสัตหีบ ในการขอความร่วมมือในการกำกับดูแลการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง รีสอร์ตหรู ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ โดยทาง นางสาวรมณี ได้ขอเช่าที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าวเพื่ออยู่อาศัยและการเกษตร เนื้อที่ 7 – 2 – 08 ไร่ ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ (ใช้ในราชการกองทัพเรือ) โดย นางสาวรมณี ได้ดำเนินการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ที่ขอเช่า โดยยังไม่ได้รับการอนุญาตจากทางราชการ อันเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย ฐานทัพเรือสัตหีบ จึงให้นางสาวรมณี รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมทั้งให้ขนย้ายสิ่งต่างๆ ออกจากบริเวณพื้นที่ และปรับพื้นที่ให้อยู่ในสภาพเดิมภายใน 30 วัน
รีสอร์ตหรูดังกล่าว พบมีเนื้อที่ 11 ไร่ ตั้งอยู่บนเขา หันหน้าออกทะเล อยู่บริเวณหน้าผายอดเขาหลวงพ่อดำ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีห้องพักเป็นแบบแคปซูลจำนวน 6 ห้อง ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และมีการโปรโมทประชาสัมพันธ์ คิดค่าเช่าห้องละ 15,000 – 18,000 บาท ภายใน ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
สำหรับที่ดินแสมสารเป็นส่วนหนึ่งของที่สงวนหวงห้ามตามกฎหมาย ต้องห้ามมิให้ออกโฉนดที่ดินแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดตามมาตรา 56 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 ออกตามความในพระราชบัญญัติ ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ฉะนั้นราษฎรผู้อาศัยจึงไม่สามารถครอบครองกรรมสิทธิ์ใดๆ ในที่ดินได้ตามกฎหมาย ซึ่งความเป็นมาของที่ดินแสมสารเดิมคือ พื้นที่ของฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นพื้นที่เขตทรงสงวนตามพระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่กองทัพเรือเป็นผู้รับผิดชอบ.-สำนักข่าวไทย