ทำเนียบรัฐบาล 13 มี.ค.- โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ยินดีสถิติจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาปี 2563 – 2565 เฉลี่ยมากกว่าปีละ 6 หมื่นคำขอ ยืนยันรัฐบาลส่งเสริมให้คนไทยเป็นเจ้าของนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบถึงการยื่นคำขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาจำนวนมาก ในช่วงปี 2563 – 2565 ซึ่งแม้จะเป็นช่วงที่เกิดโรคระบาดโควิด-19 แต่มีนักประดิษฐ์ไทยที่คิดค้นและสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมใหม่ๆ ขอรับความคุ้มครอง ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาเฉลี่ยมากกว่าปีละ 6 หมื่นคำขอ โดยคำขอจดสิทธิบัตรเป็นทรัพย์สินทางปัญญาส่วนใหญ่เป็น ยา เวชภัณฑ์ และสินค้าป้องกันโควิด ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน และถือเป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการยื่นคำขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาในปี 2563 พบว่า มีการยื่นคำขอทั้งหมด 66,580 คำขอ ปี 2564 มีการยื่นคำขอทั้งหมด 61,984 คำขอ และในปี 2565 มีการยื่นคำขอทั้งหมด 60,082 คำขอ โดยผลการยื่นคำขอจดทะเบียนจำนวนมากชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ส่งผลให้ในปี 2565 องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) จัดให้ประเทศไทยมีความสามารถด้านนวัตกรรมอยู่อันดับที่ 43 จาก 130 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน
“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย และมุ่งเน้นสนับสนุนคนไทยให้มีความคิดสร้างสรรค์ และเป็นเจ้าของ ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาจะเป็นปัจจัยสำคัญในการปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของนักประดิษฐ์ไทย รวมทั้งเป็นผลดีในเชิงพาณิชย์ที่สามารถต่อยอด เพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งประดิษฐ์ในรูปแบบผลิตภัณฑ์หรือสินค้าอื่นๆ ได้ พร้อมทั้งชื่นชมความสามารถและศักยภาพของนักประดิษฐ์ไทยที่คิดค้นและสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการผลักดันประเทศ ทั้งยังพัฒนาประเทศอย่างมั่นคงและยั่งยืนได้ในระยะยาว” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย