ตร.คุมเข้มกลุ่มทุนต่างชาติทำธุรกิจผิดกฎหมาย

สตช. 10 มี.ค.- ผบ.ตร.มอบ “พล.ต.อ.รอย” รอง ผบ.ตร. คุมเข้มกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายตามนโยบายรัฐบาล เรียกประชุมหน่วยเกี่ยวข้อง วางมาตรการระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว พร้อมเตรียมเปิดปฏิบัติการตรวจสอบเป้าหมายกว่า 100 จุดทั่วประเทศ


พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ประชุมหารือหน่วยเกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหากลุ่มทุนต่างชาติเข้ามายึดประกอบธุรกิจโดยผิดกฎหมายในประเทศไทย โดยมีผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กรมสรรพากร สำนักงาน ปปง. เข้าร่วม การประชุมดังกล่าวเป็นการขับเคลื่อนตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหากลุ่มทุนต่างชาติเข้ามายึดประกอบธุรกิจโดยผิดกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ที่ดูแลงานมั่นคง เป็นผู้รับผิดชอบ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ในที่ประชุมได้เห็นชอบกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหากลุ่มทุนต่างชาติเข้ามายึดประกอบธุรกิจโดยผิดกฎหมายในประเทศไทย ในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และมาตรการระยะยาว ดังนี้


  1. มาตรการเร่งด่วน เริ่มตั้งแต่กระบวนการการคัดกรองบุคคลต่างชาติก่อนที่จะเริ่มต้นในการประกอบธุรกิจ
    1.1 เริ่มตั้งแต่สถานกงสุลหรือสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศ ใช้มาตรการในการคัดกรองเบื้องต้นสำหรับคนต่างด้าวที่ยื่นขอวีซ่าเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย
    1.2 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กำหนดเงื่อนไขและคุณสมบัติพร้อมเอกสารประกอบที่น่าเชื่อถือให้ชัดเจนสำหรับคนต่างด้าวเข้ามายื่นขอจดทะเบียนการค้า การจัดตั้งนิติบุคคล บริษัท หรือกิจการอื่นในประเทศไทย ตรวจสอบผู้ถือหุ้นในบริษัทและคัดแยกกลุ่มเสี่ยง เช่น คนไทยถือหุ้นในหลายบริษัทของคนต่างด้าวในลักษณะถือแทน (นอมินี) ส่งข้อมูลให้ ตร. (ตำรวจท่องเที่ยว สตม. และตำรวจพื้นที่) และ ปปง. เพื่อดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายโดยทันที
    1.3 กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ตรวจสอบเรื่องการอนุญาตการประกอบธุรกิจและการทำงานของคนต่างด้าว
    1.4 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบเมื่อคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรด้วยวีซ่าอื่น และมีความประสงค์เปลี่ยนวีซ่าเป็นวีซ่าประเภททำงาน ตลอดจนตรวจสอบคนต่างด้าวที่ถือหนังสือเดินทางสองสัญชาติ โดยเฉพาะที่เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ
  2. มาตรการระยะกลาง กระบวนการตรวจสอบการประกอบธุรกิจ การดำเนินการของคนต่างด้าวในประเทศไทย เป็นการตรวจสอบความถูกต้องเรื่องของการดำเนินการให้เป็นไปตามหลักกฎหมาย ดำเนินการโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    2.1 เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ ตำรวจท่องเที่ยว สตม. บช.ก. โดยประสานการปฏิบัติและเป้าหมายในการดำเนินการกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงานในพื้นที่รับผิดชอบ (กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์)
    2.2 ประสานส่วนราชการอื่นๆ เช่น กรมการท่องเที่ยว กรมการขนส่ง ตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่ส่วนราชการรับผิดชอบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  3. มาตรการระยะยาว
    3.1 มาตรการการจัดเก็บภาษีจากการประกอบธุรกิจต้องถูกตรวจสอบได้ และจัดให้มีการจัดเก็บทุกประเภทภาษี โดยหน่วยงานจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและดำเนินการ
    3.2 การเชื่อมโยงฐานข้อมูลในระบบสรรพากร สตม. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ฯลฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองและตรวจสอบการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

พล.ต.อ.รอย กล่าวว่า “ตร.จะได้ตั้งชุดปฏิบัติการบูรณาการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการปฏิบัติตามแผนมาตรการดังกล่าวข้างต้น โดยได้กำหนดเป้าหมายในการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายโดยเร่งด่วน ในพื้นที่ กทม. ภาคเหนือ และภาคใต้ จำนวนกว่า 100 เป้าหมาย ร่วมกันประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลง เพื่อพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว หากพบมีข้อสงสัยหรือลักษณะที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย จะได้บูรณาการระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ หากประชาชนมีข้อมูล เบาะแส เรื่องร้องเรียน ขอให้แจ้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติทางหมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 หรือในระบบร้องเรียน JCOMS”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง