นายกฯ สักการะหลวงพ่อแขนลายอยุธยา

จ.พระนครศรีอยุธยา 3 มี.ค.-นายกฯ สักการะ “หลวงพ่อแขนลาย-พระนาคปรกสีขาว” พบ “เจ้าคุณธงชัย” ร่วมถ่ายรูปหน้าซุ้มกำแพงโบสถ์มีเครื่องหมายสิงห์ในรัชกาลที่ 5 คล้ายตราสัญลักษณ์ทำเนียบรัฐบาล

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ เดินทางถึงวัดศาลาปูนวรวิหาร ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือ เจ้าคุณธงชัย เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร มารออยู่ในอุโบสถวัดศาลาปูนฯ นายกรัฐมนตรี สักการะพระประธานหลวงพ่อแขนลาย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีความเชื่อว่าบนอะไรก็ได้ดังใจหวัง รวมถึงพระพุทธรูปปางนาคปรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยสร้างถวายให้วัด ในโอกาสนี้ เจ้าคุณธงชัยได้สวดชยันโต ให้นายกรัฐมนตรีและคณะด้วย

นายกรัฐมนตรีออกจากโบสถ์พร้อมกับเจ้าคุณธงชัย และหยุดยืนที่บริเวณหน้าซุ้มกำแพงโบสถ์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์สิงห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 คล้ายตราสัญลักษณ์ของทำเนียบรัฐบาล เจ้าคุณธงชัยจึงได้เรียกให้ทุกคนมายืนถ่ายรูปด้วยกัน พร้อมกล่าวว่า ใครจะเป็น ส.ส. ใครจะเข้าทำเนียบรัฐบาลมายืนถ่ายรูปกัน

ด้านพระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าอาวาสวัดศาลาปูน เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้สร้างพระปรางค์นาคปรก ซึ่งเป็นพระประจำวันเกิด และประดิษฐานไว้ภายในพระอุโบสถวัดศาลาปูนวรวิหาร ประมาณ 1 ปีแล้ว วันนี้นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงถือโอกาสเข้ามาสักการะ

เจ้าอาวาสวัดศาลาปูน กล่าวด้วยว่า ได้ให้พรนายกรัฐมนตรีมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อยู่เย็นเป็นสุขเท่านั้น ไม่ได้ให้พรเรื่องอื่นเพิ่มเติม เพราะเรื่องสุขภาพถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด คนเราหากสุขภาพดีแล้วจะทำอะไรก็ได้ และหากสุขภาพไม่ดีทำอะไรก็แย่ ดังนั้น สุขภาพดี มีเงินใช้ ร่างกายแข็งแรง เป็นสิ่งสำคัญ​

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากนายกรัฐมนตรีออกจากอุโบสถวัดศาลาปูน นายกฯ ได้เดินทางไปวัดหน้าพระเมรุ ซึ่งตามกำหนดการเดิม จะต้องพักรับประทานอาหารกลางวัน เสร็จแล้วไปวิหารพระมงคลบพิตร และวัดพระศรีสรรเพชญ์ อุทยานประวัติศาสพระนครศรีอยุธยา แต่ปรากฏว่า นายกรัฐมนตรีและคณะ รวมถึงเจ้าคุณธงชัย ได้เดินทางไปยังวัดหน้าพระเมรุก่อน ทั้งที่ไม่มีอยู่ในกำหนดการ โดยนายกรัฐมนตรีได้ไหว้พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์ บรมไตรโลกนาถ อย่างไรก็ตาม สำหรับวัดหน้าพระเมรุ เป็นวัดที่รอดพ้นจากการถูกทำลายเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2.-สำนักข่าวไทย