กรุงเทพฯ 22 ก.พ. – “อัจฉริยะ” เตรียมแขวนป้ายรายชื่อตำรวจเกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 27 ก.พ.นี้ หลังยื่นหลักฐาน 17 เว็บไซต์พนันให้ สอท.ตรวจสอบดำเนินคดีแล้ว แต่ยังไม่คืบ
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบรองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าหลังจากยื่นหนังสือให้ สอท. ตรวจสอบเว็บไซต์พนันออนไลน์ 17 เว็บไซต์ ที่ได้ข้อมูลมาว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมาก เนื่องจากที่ผ่านมาหลังจากยื่นหนังสือให้ตรวจสอบแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า เว็บไซต์ที่เคยยื่นไว้ให้ตรวจสอบ นอกจากจะมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องแล้ว ยังมีความเชื่อมโยงไปถึงเจ้าของสโมสรฟุตบอลในจังหวัดลำพูน รวมทั้งการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ และยาเสพติดอีกด้วย ส่วนคดีไม่มีความคืบหน้า อาจเป็นเพราะมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง อีกทั้งผู้ที่รับผิดชอบทำคดีบางนายก็มีข้อมูลว่าเปิดเว็บไซต์พนันเสียเอง ยิ่งทำให้ไม่มีการสืบสวนดำเนินคดี
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลการจ่ายเงินสินบนให้กับหน่วยงานอื่น ๆ เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. กว่า 40 ล้านบาท ทำให้ไม่มีการตรวจสอบหรืออายัดเส้นทางการเงินของเว็บไซต์พนัน ซึ่งแต่ละเว็บไซต์มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท รวมทั้ง 17 เว็บไซต์ มากกว่า 100,000 ล้านบาท
ขณะที่รายชื่อตำรวจเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่นายอัจฉริยะ มีอยู่มากกว่า 100 นาย และอยู่ในหลายหน่วยงาน ตั้งแต่อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ ผู้กำกับการ มากที่สุดคือระดับสารวัตร และบางคนยังคบหากับนักแสดงชื่อดังอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีชื่อของผู้กำกับการที่อยู่ในสังกัด สอท. อีกหลายคนที่เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์เอง โดยมีทั้งหลักฐานการโอนเงิน การเข้าไปเป็นหุ้นส่วน หรือเป็นเจ้าของเว็บไซต์อย่างชัดเจน
นายอัจฉริยะ ยังระบุถึงเลขาธิการ ปปง. คนดำรงตำแหน่งอยู่ว่า ยังมีคดีอยู่ที่สำนักงาน ป.ป.ช. แต่ได้รับการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งสำคัญ ทำให้ไม่เชื่อมั่นการทำงานทั้งตำรวจและ ปปง. ว่าจะสามารถปราบปรามเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 09.30 น. จะไปติดชื่อตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ทั้งหมดที่หน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับทราบว่าคนที่มอบหมายให้ปราบปรามคนทำผิดนั้น กลับมาคอยดูแลคนทำผิด วิ่งเต้นส่งเงิน และทำผิดเสียเอง.-สำนักข่าวไทย
