บุรีรัมย์ 5 ต.ค.- ครอบครัวคุณตาวัย 76 ปี สุดดีใจ เจอเงินหมื่นแล้ว หลังธนาคารตรวจสอบพบระบบเอทีเอ็มดูดเงินกลับเข้าตู้ เพราะไม่ได้หยิบเงินไปตามเวลาที่กำหนด พร้อมขอโทษพ่อค้าลอตเตอรี่ที่เข้าใจผิด
คืบหน้ากรณีนางนภาพร อายุ 54 ปี ชาวบ้านห้วย ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ พร้อมจุดธูปไหว้รูปแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว ขอให้ดวงวิญญาณแม่ช่วยเหลือ เนื่องจากวันที่ 30 ก.ย.67 ได้นำบัตร ATM ของพ่อ คือ นายเปลี่ยว อายุ 76 ปี ไปกดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับกลุ่มเปราะบาง 10,000 บาท ที่ตู้ ATM (ธ.ก.ส.) สาขาเฉลิมพระเกียรติ แต่ เงินไม่ไหลออกมา เมื่อนำสมุดบัญชีไปปรับ กลับพบว่าเงินถูกถอนไปแล้ว เบื้องต้นสงสัยพ่อค้าลอตเตอรี่ ที่มาต่อคิวถอนเงินอาจจะหยิบเงินไปหรือไม่
ต่อมาทีมข่าวไปตามหานายนิยม อายุ 51 ปี ชาวบ้านตะโก อ.เฉลิมพระเกียรติ พ่อค้าเดินเร่ขายลอตเตอรี่ ซึ่งเป็นคนต่อคิวกดถอนเงินต่อจากนางนภาพร และถูกเข้าใจว่าอาจเป็นคนหยิบเงิน ซึ่ง นายนิคม ยืนยันว่า ไม่ได้มีการเอาเงินของนางนภาพร ไป เพราะไปถอนเงินของตัวเองเท่านั้น
ล่าสุด ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาเฉลิมพระเกียรติ ได้นัดนายเปลี่ยว อายุ 76 ปี เจ้าของบัญชี พร้อม นางนภาพร ลูกสาว รวมถึงนายนิยม พ่อค้าลอตเตอรี่ เข้ามาพบพูดคุยที่ ธ.ก.ส.สาขาเฉลิมพระ ทั้งนี้ ทางธนาคาร แจ้งว่า จากการตรวจสอบพบว่าเงินจำนวน 10,000 บาทไม่ได้หายไปไหน และไม่มีใครหยิบออกจากตู้ แต่ระบบดูดเงินจำนวนดังกล่าว กลับคืนเข้าตู้ไป เนื่องจากลูกค้าไม่ได้หยิบเงินออกจากช่องรับเงินในเวลาที่กำหนด ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยของธนาคาร โดยตู้ ATM ที่ลูกค้าใช้บริการ เป็นตู้แบบ CDM ซึ่งเป็นระบบฝาก – ถอนและโอนเงินได้ในตู้เดียว ซึ่งกรณีนี้นับเป็นความเข้าใจผิดพลาด เพราะผู้ใช้บริการไม่เคยกดเงินแบบตู้ฝาก-ถอนมาก่อน และธนาคารจะโอนกลับคืนบัญชีลูกค้าภายในวันจันทร์นี้ เนื่องจากต้องเป็นไปตามระเบียบของธนาคาร
ด้าน นางนภาพร ก็ได้ยกมือไหว้ ขอโทษนายนิยม พ่อค้าลอตเตอรี่ที่เข้าใจผิดคิดว่าหยิบเงิน 1 หมื่นไป พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณทุกหน่วยงาน ที่ช่วยติดตามเงิน จนทราบว่าเงินหมื่น ระบบเอทีเอ็มได้ดูดกลับเข้าตู้ไป .-สำนักข่าวไทย