เชียงใหม่อ่วมหลังน้ำปิงล้นทะลัก ท่วมหนักในรอบหลายสิบปี

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่ 5 ต.ค.- น้ำท่วมเชียงใหม่ยังวิกฤติ หลังน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทะลักเข้าท่วมชุมชนย่านการค้า เรียกว่าเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดของเชียงใหม่ในรอบหลายสิบปี


น้ำที่ท่วมเชียงใหม่รอบนี้เรียกว่าสาหัสจริงๆ ตลาดวโรรสหรือการหลวง ตลาดเก่าแก่ของเชียงใหม่ เชื่อมต่อถนนช้างม่อย รวมไปถึงตลาดดอกไม้และตลาดต้นลำไย กลายสภาพเป็นตลาดน้ำเรียบร้อยแล้ว หลังน้ำปิงล้นพนังกั้นทะลักเข้าท่วมมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ร้านค้ามากมายหลายร้อยแห่งในย่านนี้ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่ บางจุดโดยเฉพาะตลาดต้นลำไยที่อยู่ริมน้ำปิงน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร หลายร้านเก็บข้าวของไม่ทันเพราะไม่คิดว่าน้ำจะท่วมสูงขนาดนี้

นอกจากนี้น้ำที่ท่วมหลายชุมชนและย่านการค้าในตัวเมืองเชียงใหม่ยังเพิ่มสูงขึ้นและขยายวงกว้างออกไป ในรัศมีเกือบ 3 กิโลเมตรจากริมฝั่งน้ำปิง ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูงจนรถเล็กสัญจรลำบาก อย่างถนนสันป่าข่อยที่น้ำท่วมยาวไปถึงหน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องเร่งขนข้าวของและสัตว์เลี้ยงออกมาจากบ้านเท่าที่จะทำได้


รวมทั้งอีกหลายชุมชนในโซนที่ 1-7 เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ บางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร โดยน้ำปิงยังทะลักท่วมไปถึงถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปางแล้ว ทำให้ชาวเชียงใหม่ต้องเคลื่อนย้ายรถยนต์ไปไว้ในพื้นที่สูง จนการจราจรติดขัดทั่วเมือง หลังระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่เพิ่มสูง มวลน้ำจากทางตอนเหนือทั้งแม่แตง แม่ริมและเชียงดาว ทะลักลงลำน้ำปิงด้วยปริมาณกว่า 7 ร้อยลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งนับเป็นระดับปิงที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการวัดระดับกันมา หรืออาจจะเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดของเชียงใหม่ก็ว่าได้

ภาพมุมสูงจากเฮลิคอปเตอร์กองทัพอากาศ ที่นำนายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ บินสำรวจเส้นทางแม่น้ำปิงจากตัวเมือง ไปจนถึงอำเภอแม่แตง พบว่าน้ำปิงได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่งและขยายวงกว้างไปในหลายพื้นที่ รวมทั้งตำบลกึ้ดช้าง อำเภอแม่แตง และบริเวณศูนย์บริบาลช้าง ของมูลนิธิศูนยย์อนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ที่ถูกน้ำท่วมสูง จนต้องอพยพช้างกว่า 100 เชือก หมา แมวและสัตว์พิการ ป่วย กว่า 3 พันตัวออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย

ตอนนี้ระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่คาดว่าจะขึ้นสูงสุดในช่วงเที่ยงวันนี้ แต่จะยังทรงตัวสูงอยู่อีกระยะ เพราะยังมีมวลน้ำจากทางตอนเหนือมาเติมอยู่บ้าง คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 วันน้ำปิงจะจะไหลกลับลงลำน้ำทั้งหมด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”