กำชับทีม พม. รับมือมวลน้ำเขื่อนเจ้าพระยา สั่ง 6 จว.ภาคกลาง เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว

น้ำเขื่อนเจ้าพระยา

ศูนย์การประชุมฯ สิริกิติ์ 5 ต.ค. – “วราวุธ” กำชับทีม พม. รับมือมวลน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา สั่ง 6 จว.ภาคกลาง สุพรรณบุรี อยุธยา นครปฐม ชัยนาท สมุทรปราการ กทม. เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ย้ำโทรสายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง


นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในภาคกลางวันนี้ปริมาณน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยมาอยู่ที่ 1,994 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และอีกไม่นานจะปล่อยขึ้นไปจนถึงประมาณ 2,000 ไม่เกิน 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งปริมาณน้ำเต็มความจุที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ประมาณ 2,700 ไม่เกิน 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เห็นว่าวันนี้น้ำที่ปล่อยผ่านจากเขื่อนเจ้าพระยา จะกระทบสองฝั่งของเจ้าพระยาแน่นอน นอกจากนี้ ทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เข้ามาทางแม่น้ำท่าจีน หรือไปสู่แม่น้ำน้อย ปริมาณน้ำที่พยายามจะผันออกไปยังทุ่งตะวันตกและทุ่งตะวันออกนั้นเพิ่มปริมาณมากขึ้นประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในแต่ละข้าง

นายวราวุธ กล่าวว่า ปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาอยู่ทางพื้นที่ของที่ลุ่มภาคกลางจะเพิ่มปริมาณมาก พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน พม. จึงเตรียมพื้นที่ พร้อมทั้งถุงยังชีพ ทีมงานเจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. ที่จะเข้าไปช่วยเยียวยา พูดคุยกับพี่น้องประชาชน และยังเตรียมพื้นที่ของกระทรวง พม. จัดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวในการรองรับผู้ประสบภัยใน 6 จังหวัดภาคกลาง จำนวน 17 แห่ง ดังนี้


  1. จังหวัดสุพรรณบุรี 3 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสุพรรณบุรี 2) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี และ 3) สำนักงานการเคหะจังหวัดสุพรรณบุรี
  2. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 4 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3) ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ 4) การเคหะบ่อโพง
  3. จังหวัดนครปฐม 4 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครปฐม 2) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครปฐม 3) สำนักงานเคหะสาขา 1 และ 4) สำนักงานเคหะสาขา 2
  4. จังหวัดชัยนาท 2 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชัยนาท และ 2) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาท
  5. จังหวัดสมุทรปราการ 3 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสมุทรปราการ 2) ศูนย์พัฒนาศักยภาพและฝึกอาชีพคนพิการพระประแดง และ 3) สถานสงเคราะห์คนพิการพระประแดง
  6. กรุงเทพมหานคร 1 แห่ง ได้แก่ สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ

นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนในพื้นที่ภาคเหนือมีศูนย์พักพิงชั่วคราว 8 จังหวัด 26 แห่ง ได้แก่
1.จังหวัดเชียงราย 7 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเชียงราย 2) ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดเชียงราย 3) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย 4) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงราย 5) บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงราย (ริมกก) 6) บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงราย (แม่สาย 1) และ 7) บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงราย (แม่สาย 2)

  1. จังหวัดเชียงใหม่ 8 แห่ง ได้แก่ 1) บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงใหม่ (สันผีเสื้อ) 2) บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงใหม่ (หนองหอย) 3) บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงใหม่ (หนองหอย 2) 4) สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์ 5) สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านเชียงใหม่ 6) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ 7) ศูนย์พักพัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน และ 8) ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์
  2. จังหวัดแม่ฮ่องสอน 2 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ 2) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน
  3. จังหวัดลำพูน 2 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดลำพูน และ 2) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลำพูน
  4. จังหวัดลำปาง 1 แห่ง ได้แก่ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคเหนือ
  5. จังหวัดพะเยา 2 แห่ง ได้แก่ 1) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยา และ 2) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดพะเยา
  6. จังหวัดน่าน 2 แห่ง ได้แก่ 1) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดน่าน และ 2) ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดน่าน
  7. จังหวัดแพร่ 2 แห่ง ได้แก่ 1) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแพร่ และ 2) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดแพร่

นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด 20 แห่ง ได้แก่

  1. จังหวัดหนองคาย 3 แห่ง ได้แก่ 1) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดหนองคาย 2) สถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็กจังหวัดหนองคาย และ 3) นิคมสร้างตนเองโพนพิสัย
  2. จังหวัดเลย 2 แห่ง ได้แก่ 1) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเลย และ 2) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเลย
  3. มุกดาหาร 2 แห่ง ได้แก่ 1) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร และ 2) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดมุกดาหาร
  4. จังหวัดบึงกาฬ 2 แห่ง ได้แก่ 1) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบึงกาฬ และ 2) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดบึงกาฬ
  5. จังหวัดอุบลราชธานี 2 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการบ้านศรีวนาไล และ 2) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุบลราชธานี
  6. จังหวัดนครพนม 3 แห่ง ได้แก่ 1) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม 2) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครพนม 3) ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม
  7. จังหวัดขอนแก่น 3 แห่ง ได้แก่ 1) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น 2) ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภาจังหวัดขอนแก่น และ 3) ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดขอนแก่น
  8. จังหวัดอุดรธานี 3 แห่ง ได้แก่ 1) นิคมสร้างตนเองเชียงพิณ 2) นิคมสร้างตนเองห้วยหลวง และ 3) สถานสงเคราะห์เด็กหญิงจังหวัดอุดรธานี

นายวราวุธ กล่าวว่า หากประชาชนผู้ประสบภัยมีความประสงค์ที่จะมาใช้พื้นที่ของกระทรวง พม. ยินดีให้บริการ สถานที่เรามีความปลอดภัย มีทั้งที่อยู่ที่พักอาศัยและห้องน้ำเตรียมบริการ 24 ชั่วโมง หากต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ขอให้โทรติดต่อมาที่ สายด่วน พม. โทร. 1300 ของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. เราพร้อมส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเครื่องที่เร็วลงพื้นที่ช่วยเหลือโดยด่วน


นายวราวุธ กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำแม่ปิงสูงขึ้นมากอย่างไม่เคยเจอมาก่อน สะท้อนให้เห็นว่าวันนี้ธรรมชาติกำลังเคาะประตูพวกเรามนุษยชาติอย่างเต็มที่แล้ว มาช่วยกันเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวเชียงใหม่และเชียงรายฝ่าฟันวิกฤตินี้ไปด้วยกัน พวกเรากระทรวง พม. จะคอยทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการประสานงานช่วยสนับสนุนและเยียวยาพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่. – 314 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]