กรุงเทพฯ 14 ก.พ. – เลขาฯ BOI เผย ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนปี65 มูลค่าพุ่ง 6.6 แสนล้าน เพิ่มขึ้นร้อยละ 41 สูงที่สุดในรอบหลายปี เผย นักลงทุนจีนมาแรง อันดับ 1 ชี้โอกาสดีของนักลงทุน มองอุตสาหกรรมยานยนต์อีวี แปรรูปอาหารมาแรง
ในงานเสวนาเรื่อง “ยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุน พลิกโฉมประเทศไทยสู่เศรษฐกิจใหม่” ที่จัดขึ้นภายใต้โครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ครั้งที่ 1/2566 BOI พบนักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบัน”โดยมีดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดไทย FETCOและ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนBOI ร่วมพูดคุยกับนักลงทุนผ่านระบบออนไลน์
โดย นายนฤตม์ เปิดเผยว่า ตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุน ในปี 2565 พบว่า เพิ่มสูงขึ้นในทุกขั้นตอนทั้งการขอรับการส่งเสริม, การขออนุมัติ และการออกบัตรส่งเสริม โดยการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในปี2565 มียอดรวมอยู่ที่ 2,119 โครงการ เงินลงทุน 664,635 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีการขอรับการส่งเสริม อยู่ที่ 1,499 โครงการ เงินลงทุน 478,952 ล้านบาท เป็นตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่สูงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา และสูงกว่าช่วงของการระบาดของโควิดในปี 2562 ที่มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่ 1,487 โครงการ เงินลงทุน 579,813 ล้านบาทโดยมีนักลงทุนจากประเทศจีนเป็นอันดับ คิดเป็น 18 % ของมูลค่าทั้งหมด รองลงมาคือนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐ และไต้หวัน ซึ่งถือเป็นทิศทางที่ดีที่นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น
ส่วนการออกบัตรส่งเสริมการลงทุน ซึ่งหลังขอบัตรส่งเสริมแล้ว จะเกิดการลงทุนจริงภายใน 1-2 ปี มีอัตราเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 20 ทำให้มั่นใจว่าภายใน 1-2 ปีจากนี้ ประเทศไทยจะมีเม็ดเงินลงทุนจริงเกิดขึ้นในระบบ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เราต้องการส่งเสริม ทั้งในอุตสาหกรรม BCG อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล
สำหรับจุดแข็งของประเทศไทยในสายตาของนักลงทุน มองว่ามีหลายปัจจัย เช่น ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพบุคลากร และซัพพลายเชนจ์ซึ่งไทยเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนสำคัญป้อนอุตสาหกรรมหลักครบวงจรที่สุดในภูมิภาคนอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ที่จูงใจและสามารถแข่งขันได้ นอกจากนี้ยังมีจุดแข็งสำคัญคือการจัดหาพลังงานสะอาดให้กับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัทชั้นนำกำลังมองหา เพื่อเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน
ทั้งนี้ BOI ว่า กลุ่มอุตสาหกรรมที่กำลังมาแรงขณะนี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะอีวี อุตสหกรรมการเกษตรและแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ส่วนอุตสาหกรรมใหม่ที่ BOI กำลังเร่งส่งเสริมคืออุตสาหกรรมดิจิทัลที่วางเป้าหมายให้เป็นนิวเอสเคิฟ รวมถึงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ.-สำนักข่าวไทย