ส.ส.แห่คัดค้านร่าง พ.ร.บ.จริยธรรมสื่อฯ

รัฐสภา 7 ก.พ.- ส.ส.แห่คัดค้านร่าง พ.ร.บ.จริยธรรมสื่อ ซัด กฎหมายล้าหลัง ยัดไส้ ไม่น่าไว้ใจ ขณะ ส.ว.หนุนผ่านร่าง เพื่อจัดระเบียบสื่อให้สื่อ-ประชาชนได้ประโยชน์ ยัน พร้อมฟังเสียงคัดค้านนำปรับปรุงชั้น กมธ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมร่วมกันของรัฐสภาเป็นพิเศษวันนี้ (7 ก.พ.) มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาเป็นประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. …. ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงสาระของร่างกฎหมายว่า กำหนดให้มีองค์กรเพื่อทำหน้าที่คุ้มครองเสรีภาพของบุคคล ซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน ตามที่รัฐธรรมนูญรับรอง และกำหนดให้มีการกำกับดูแลส่งเสริมจริยธรรมสื่อมวลชน โดยกำหนดให้มีองค์กรกลางเรียกว่า สภาวิชาชีพสื่อมวลชน โดยมีคณะกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชนในการเป็นกลไกขับเคลื่อนสภาวิชาชีพสื่อมวลชน เพื่อให้การทำหน้าที่ตามมาตรฐานแห่งวิชาชีพเป็นไปอย่างเหมาะสม ทำให้อาชีพสื่อมวลชนมีความเป็นอิสระในการนำเสนอข่าวสารและแสดงความคิดเห็นอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นต้นทุนทางสังคมประการหนึ่งในระบอบประชาธิปไตยที่เมื่อมีสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนที่ได้รับการคุ้มครอง สื่อมวลชนจะสามารถทำได้อย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ ภายใต้มาตรฐานจริยธรรมของสื่อมวลชน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึงรอบด้าน และความเท่าเทียมกันของประชาชน รวมถึงยังได้กำหนดให้มีมาตรฐานคุ้มครองประชาชนหรือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน หรือองค์กรสื่อมวลชน อันมาจากการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมสื่อมวลชน


ขณะที่สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง อาทิ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายว่า สื่อมวลชนมีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกัน มาตรฐานสื่อถูกตั้งคำถาม ซึ่งที่ผ่านมา ตนเองต่อต้านการมีกฎหมายจริยธรรมสื่อ เพราะเชื่อว่าสื่อสามารถปกครองดูแลกันเองได้ แต่หลังจากผ่านมา 3 รัฐธรรมนูญเกือบ 20 กว่าปี พบว่าจำเป็นต้องมีการส่งเสริมจริยธรรมและสร้างมาตรฐานวิชาชีพสื่อ เพื่อให้สื่อมวลชนทำหน้าที่แทนประชาชนในการดูแลสิทธิเสรีภาพประชาชน ไม่ใช่การทำตามอำเภอใจ แม้ว่าร่างกฎหมายฉบับนี้มาจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ในฐานะที่เป็นอดีตสื่อมวลชนเห็นว่า สื่อมวลชนมีปัญหาเรื่องมาตรฐานจริยธรรม จึงควรมีกฎหมายดูแลเพื่อกำกับดูแลกันเหมือนกับวิชาชีพอื่น และร่างกฎหมายฉบับนี้มีหลายเรื่องที่เป็นข้อดีอย่างมาก แต่ก็มีความเห็นสอดคล้องกับผู้ที่คัดค้านในปัญหาของบทเฉพาะกาล หากร่างฉบับนี้ผ่านวาระรับหลักการ ตนจะเข้าไปเป็นกรรมาธิการฯเพื่อปรับปรุงแก้ไขบทเฉพาะกาลเพื่อไม่ให้สื่อถูกมัดมือชก

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย อภิปรายคัดค้านว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มาโดยไม่ชอบ มีรากของลัทธิอำนาจนิยม ร่างมาตั้งแต่สมัยสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว เพราะมีความเห็นแบบลัทธิอำนาจนิยมว่าสื่อมวลชนต้องควบคุมได้โดย คสช. รากของร่างนี้จึงไม่บริสุทธิ์ และขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ แม้จะมีเจตจำนงที่ดีแต่เป็นการยัดไส้ข้างใน สื่อมวลชนไม่สามารถไว้วางใจได้ เพราะกฎหมายฉบับนี้ไม่ตรงปก ไม่รู้กาลเทศะ จึงขอให้ถอนร่าง พ.ร.บ.นี้ออกไปก่อนและทำประชาพิจารณ์ให้ชัดเจนมากกว่านี้

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายตั้งข้อสังเกตว่า ประชาชนทั่วไปที่ใช้โซเชียลมีเดียอย่าง Tiktok จะได้รับผลกระทบจากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้หรือไม่ เพราะร่างดังกล่าว ร่างมานานกว่า 5 ปี ตั้งแต่สมัยยังไม่มีแอพพลิเคชั่น Tiktok ซึ่งถือว่า ล้าสมัยแล้ว จึงขอให้รัฐบาลทบทวนและพิจารณาว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะไม่เป็นการครอบงำสื่อ และหากเป็นไปได้ก็อยากให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกไปก่อน


นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายว่า สภาวิชาชีพสื่อที่ตั้งขึ้นมาไม่มีกฎหมายรองรับเหมือนสภาวิชาชีพอื่น ด้วยความเป็นแซงก็ไม่ไว้ใจผู้ที่ออกกฎหมาย ว่าออกมาแล้วจะทำให้ขาดอิสระและเสรีภาพ ทำให้ไม่มีกฎหมายเหล่านี้ออกมา ซึ่งตนเองก็พยายามพิจารณาว่า กฎหมายนี้ออกมาปิดหูปิดตาปิดปากสื่อมวลชนอย่างที่มีการพูดกันจริงหรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่า การที่กฎหมายออกมาแสดงว่าบ้านเมืองและสังคมมีปัญหาจึงต้องการให้มีกติกาเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ ยืนยันว่า มีสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่อย่างสุจริต แต่ก็มีสื่อบางส่วนที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เสียดสีด่าทอใส่ร้ายฝ่ายหนึ่ง เข้าใจว่ากฎหมายก็ช่วยอะไรมากไม่ได้ แต่ในร่างกฎหมายฉบับนี้ ยังไม่เห็นว่าส่วนใดที่ปิดกั้นปิดปากควบคุมสื่อมวลชน มีแต่ตั้งองค์กรที่ทำหน้าที่ดูแลสื่อมวลชน ส่วนบทลงโทษก็ไม่เห็นมีอะไรที่จะรุนแรง เพียงแต่เป็นกฎหมายที่จัดระเบียบให้สื่อได้รับประโยชน์ ยืนยันว่าไม่ได้เข้าข้างรัฐบาลที่เสนอกฎหมาย แต่มองโลกแห่งความเป็นจริง ทั้งนี้ ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของสื่อมวลชนและต้องคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างแท้จริงด้วยซึ่งหากจะต้องมีร่างกฎหมายฉบับนี้ก็ต้องฟังเสียงของสื่อมวลชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว