สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน 17 พ.ค.- ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมร้องสอบเจ้าหน้าที่ ปปง.ช่วยเหลือผู้ต้องหาฉ้อโกงกว่า 5,800 ล้าน ระบุ DSI รับเป็นคดีพิเศษมา 2 ปีแล้ว แต่ไม่คืบหน้า เผย เชื่อมโยง “พ.ต.อ.สีหนาท” ด้วย
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายธาวิน อินทร์จำนงค์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นพนักงานสอบสวนในคดี น.ส.บุศรินทร์ ยีโหนด และนายมนัส โชติขัน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนหลอกขายโทรศัพท์มือถือ จำนวนเงิน 5,884,557,624 บาท ในปี 2557-2558 ได้แก่ นายสุวิจักขณ์ ธรรมชัยพจน์ ผู้อำนวยการ กองคดี 4 น.ส.มาลีรัตน์ ทะวะบุตร ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการงานคดี 4 น.ส.จารีณี ลิขิตธรรมวานิช กับพวก ไม่รายงานข้อเท็จจริงให้ผู้บังคับบัญชา และคณะกรรมการธุรกรรมทางการเงินทราบ ทำให้ไม่สามารถขยายผลคดีได้เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเห็นได้ชัดว่ามีเจตนาช่วยเหลือผู้ต้องหาให้พ้นผิด โดยเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งหมด และประวิงเวลาเพื่อให้คณะกรรมการธุรกรรมไม่สามารถตรวจสอบได้ในเวลา 90 วัน
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ ปปง. กลุ่มดังกล่าว มีเจตนาทำให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม คุ้มครองสิทธิ์ให้กับผู้เสียหายไม่ทัน ทำให้ผู้ต้องหาสามารถเบิกถอนเงินที่ ปปง. อายัดไว้ได้ หากเลยกำหนดเวลา 90 วัน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวยังตรวจพบเงินในบัญชีผู้ต้องหา กว่า 5,800 ล้านบาท ที่มีการฟอกเงินผ่านบัญชี แต่ไม่มีการเสียภาษีให้กับกรมสรรพากรแม้แต่บาทเดียว ทำให้เห็นได้เลยว่า เจ้าหน้าที่ ปปง. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
“คดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้รับเรื่องดังกล่าวเข้ามาเป็นคดีพิเศษ กว่า 2 ปีแล้ว แต่คดีก็ยังไม่คืบหน้า และมีเจ้าหน้าที่ ปปง. ที่เกี่ยวข้องมากกว่า 10 คน แต่มีหลักฐานชัดเจนเพียง 4 คนเท่านั้น นอกจากนี้ คดีนี้ยังเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ อดีตที่ปรึกษาประจำ ปปง. ที่โดนสั่งย้ายไปปฏิบัติราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ด้วย” นายอัจฉริยะ กล่าว .- สำนักข่าวไทย