คาดกลางเดือนหน้าทราบผล 191-ดีเอสไอ ตบทรัพย์

กรุงเทพฯ 26 ม.ค. – ผู้บังคับการ 191 คาดกลางเดือนหน้าทราบผลสอบวินัยร้ายแรง ตำรวจ 191 รวม 9 นาย ร่วมกับดีเอสไอ ตบทรัพย์แก๊งจีนเทา ที่บ้านเช่าอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู หากผิดจริงโทษหนักถึงไล่ออก


พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผู้บังคับการ สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีตำรวจ 191 รวม 9 นาย ร่วมกับดีเอสไอ ตบทรัพย์แก๊งจีนสีเทาเครือข่ายพาสปอร์ตปลอมที่บ้านเช่าอดีตกงสุลใหญ่ นาอูรู ย่านสาทร ว่า กรณีดังกล่าวว่า คณะทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการแจ้งดำเนินคดีทางอาญากับตำรวจ 191 ทั้ง 9  นายไปแล้ว เบื้องต้นในฐานะผู้บังคับบัญชา  ได้มีคำสั่งย้ายทั้ง 9 ให้มาปฎิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการ 191 โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ตั้งแต่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 9  นาย ยังให้การปฏิเสธ ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการตบทรัพย์เงินเพื่อแลกกับการปล่อยตัวแก๊งจีนสีเทา และเร่งรัดการสอบให้ปรากฏข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน ทั้งนี้ หากผลสอบปรากฏข้อเท็จจริงว่าทั้ง 9 นาย ร่วมรู้เห็น ในการเรียกเงินมาแบ่งกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จริง โทษทางวินัย ถึงขั้นไล่ออกจากราชการ

ผู้บังคับการ 191 ย้ำว่าต้นเรื่องเกิดจากกงสุลใหญ่นาอูรูมีหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ  จากนั้นดีเอสไอ ประสานมาที่รองผู้บังคับการ 191 เข้าดำเนินการ ยืนยันตำรวจ 191 ไม่ใช่ต้นเรื่อง และจากการตรวจสอบรองผู้การ 191 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการตบทรัพย์ครั้งนี้ โดยมีการเข้าให้ปากคำกับคณะพนักงานสอบสวนของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว  


“ขอให้สังคมมองในมุมกว้าง ที่ผ่านมาตำรวจ 191 ปฏิบัติภารกิจทั้งช่วยเหลือประชาชน ระงับเหตุร้าย และได้กำชับการปฏิบัติหน้าที่อยู่ในระเบียบ วินัย  ภายใต้ กฎหมาย แต่ก็มีเจ้าหน้าที่บางส่วนออกนอกแถว  หากตรวจสอบพบหรือได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ก็มีการดำเนินการลงโทษ โดยไม่ละเว้น” พล.ต.ต.ภานพ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่