นนทบุรี 16 ม.ค.-อธิบดีกรมการค้าภายในลงตรวจพื้นทีจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อดูปัญหาการรับซื้อผลปาล์มตามที่ชาวสวนร้องหลายด้าน โดยย้ำขอความร่วมมือทั้งโรงงาน ลานเทพร้อมเกษตรกรมาร่วมกันวางแผนกันใหม่เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา และประกาศเอาจริงหากพบพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบทั้งราคาและไม่ปิดป้ายแสดงราคาใช้กฎหมายแน่ แนะใครพบร้องสายด่วน 1569 ได้
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ไปยังจ.สุราษฎร์ธานี ตามสั่งการของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เพื่อลงไปดูถึงสถานการณ์การซื้อขายผลปาล์มด้วยตนเอง เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นและจะช่วยแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มได้อย่างไรซึ่งจากการตรวจสอบและได้สอบถามทุกฝ่ายให้ข้อมูลตรงกันมีโรงงานสกัดปิดก่อนปีใหม่และเพิ่งเปิดหลังปีใหม่ เกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยว ทำให้ผลผลิตสูงขึ้นกว่าช่วงปกติ ก็เลยเกิดปัญหาติดขัดด้านปริมาณที่จะเข้าโรงงาน และมีหลายโรงงานปิดเพื่อซ่อมเครื่องจักร ทำให้โรงงานที่เปิดรับซื้อผลปาล์ม จึงซื้อผลปาล์มไม่ได้ทั้งหมด
“ในช่วงนี้ ไม่ใช่ช่วงที่ผลผลิตออกมาก แต่ได้รับผลกระทบจากโรงงานปิดในช่วงปีใหม่ พอเปิดมา เกษตรกรจึงรีบตัดมาขาย พอของเข้าโรงงานมาก ๆ เกินกำลังการผลิต จึงเจอปริมาณตกค้าง แต่ได้ขอความร่วมมือโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแล้วให้เปิดช่องทางพิเศษในการรับซื้อปาล์มสำหรับเกษตรกรรายย่อย และให้เพิ่มกำลังการสกัดน้ำมันปาล์มแล้ว”นายวัฒนศักย์กล่าว
นอกจากนี้ กรมฯขอความร่วมมือกรณีโรงงานปิดซ่อมเครื่องจักร นายให้แจ้งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดล่วงหน้า เพื่อทำเป็นตารางการซ่อมบำรุงไม่ให้ตรงกัน และหากมีแผนที่จะซ่อมบำรุงในช่วงนี้ ขอให้ชะลอออกไปก่อน โดยภาคเอกชนยินดีที่จะร่วมมือกับส่วนราชการเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวสวนปาล์ม ขณะที่ในส่วนของชาวสวนปาล์ม ทางกรมฯขอความร่วมมือให้ชะลอการเก็บเกี่ยวปาล์มน้ำมันออกไประยะหนึ่งเพื่อรอให้สถานการณ์คลี่คลายจะได้ราคาดีขึ้น ดังนั้นคาดว่าสัปดาห์นี้สถานการณ์ทุกอย่างจะเริ่มดีขึ้นและกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้แน่นอน และกรมฯจะติดตามส่งทีมสายตรวจลงพื้นที่ โดยต้องปิดป้ายราคารับซื้อ หากพบไม่ปิดป้ายหรือกดราคารับซื้อ จะดำเนินการตามกฎหมายแน่นอนหากใครพบเห็นร้องสายด่วน 1569 ได้ทันที
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าขณะนี้โรงสกัดได้หันกลับมาซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรชาวสวนปาล์มทั้งชุมพรสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง กระบี่ พังงา ทั้ง 6 จังหวัด มีทั้งหมด 61 โรงขณะนี้เปิดรับซื้อ 60 โรง จึงเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้เข้าไปแก้ปัญหาและให้ตรวจสอบหากใครทำผิดกฏหมายให้ดำเนินคดีตามมาตรา 29 คือ ปรับไม่เกิน140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับในข้อหาสร้างความปั่นป่วนเรื่องราคาและขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้วแต่จะติดตามอย่างใกล้ชิด ขอให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้รับทราบและไม่ต้องกังวลว่าถัดจากนี้ผลปาล์มจะขายไม่ได้และจะเกิดปัญหาจราจรติดขัดอีกซึ่งทุกด้านได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว.-สำนักข่าวไทย