fbpx

รวบแล้วมือยิงเอ็ม 16 ถล่มก๊วนตำรวจ ตาย 1 เจ็บ 2

สงขลา 15 ม.ค. – เกิดเหตุอุกอาจที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นเหตุกระทบกระทั่งกันในร้านอาหาร สุดท้ายจบลงด้วยการชักอาวุธปืนเอ็ม 16 และปืนสั้น ยิงถล่มกัน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ล่าสุดตำรวจรวบตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว


ชุดสืบสวน สภ.สิงหนคร พร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานภายในร้านอาหาร ซึ่งอยู่ติดกับสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองสิงหนคร พื้นที่หมู่ 1 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิต คือ นายคเชนทร์ เสียชีวิตระหว่างถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 คน ประกอบด้วย นางปราณี และ ด.ต.ณรงค์ศักดิ์

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ในร้าน 6 ปลอก และปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 ซึ่งใช้กับปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ริมกำแพงนอกร้าน 10 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


สอบสวนพยานแวดล้อมเบื้องต้นให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายที่ยิงถล่ม พร้อมลูกชายและเพื่อน รวม 3 คน ได้มานั่งรับประทานอาหารที่ร้านอยู่ก่อนแล้ว ต่อมามีกลุ่มผู้ตายประมาณ 6 คน เข้ามานั่ง หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกันเรื่องที่กลุ่มผู้ตายพูดเสียงดัง และผู้ก่อเหตุได้พูดตักเตือน ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจจนบานปลาย จากนั้นคนร้ายได้เดินออกจากร้านไปยังรถกระบะที่จอดอยู่ข้างร้าน และหยิบอาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ตายกับพวก โดยกลุ่มผู้ตายได้ชักอาวุธปืนสั้นยิงตอบโต้ ทำให้คนร้ายขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไป

ขณะที่ชุดสืบสวนอีกชุดได้สอบปากคำหนึ่งในตำรวจที่ไปด้วยกันกับกลุ่มผู้ตาย แต่โชคดีนอนอยู่ในรถ ไม่ได้ลงไปนั่งรับประทานอาหาร บอกว่า ตอนเกิดเหตุพวกตน ซึ่งมีตำรวจ 3 นาย และชาวบ้าน 3 คน ได้นั่งรับประทานอาหารที่ร้าน หลังจากเพิ่งเสร็จสิ้นการจัดกิจกรรมวันเด็ก กระทั่งเกิดเหตุยิงกันขึ้น แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุใด เพราะตนเองง่วงและขอนอนอยู่ในรถ

นอกจากนี้ ชุดสืบสวนอีกชุดได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านคนยิง และพบกับลูกชาย อายุ 12 ปี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า พ่อ (คนยิง) พาไปเลี้ยงข้าวเนื่องในวันเด็ก พร้อมกับเพื่อนพ่ออีก 1 คน ต่อมาอีกฝ่ายได้เข้ามานั่งดื่มกินที่โต๊ะข้างๆ จนเมาและพูดเสียงดัง พ่อจึงพูดเตือนไป แต่อีกฝ่ายพูดสวนมาว่า เสียงดังไปเลยไม่ต้องกลัว และจะลุกมาต่อยพ่อ แต่เพื่อนห้ามไว้ จากนั้นได้ลุกขึ้นเดินมาที่โต๊ะเพื่อขอโทษพ่อ แต่กลับมาตบพ่อ ซึ่งตอนนั้นพ่อพูดกลับไปว่า “ผมกลับดีกว่า ผมไม่มีอะไร” และลุกขึ้นเดินไป


ด้าน พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้สั่งการให้สอบสวนและดำเนินคดีไปตามข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวมีทั้งชาวบ้านและตำรวจร่วมอยู่ในเหตุการณ์

ขณะที่ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับคนร้าย 2 คนแล้ว คือ นายวันชัย หรือ “บอย” อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นคนยิง และนายณัฐพล อายุ 25 ปี เพื่อนอีกคนที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ โดยทั้งคู่ถูกตั้ง 3 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันพยายามฆ่า และร่วมกันมีอาวุธปืนฯ และพกพาอาวุธปืนฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งหาเบาะแสติดตามจับกุมทั้ง 2 คน อย่างกระชั้นชิด

เปิดภาพวงจรปิดมือปืนยิงเอ็ม 16 ถล่มก๊วนตำรวจ

สำนักข่าวไทยได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะทั้งสองฝ่ายมีเรื่องและยิงกัน โดยฝั่งคนยิงนั่งอยู่ที่ซุ้มไม้ไผ่นอกร้าน ส่วนกลุ่มตำรวจกับเพื่อนนั่งอยู่ในร้าน ตอนที่มีเรื่องกัน กลุ่มของตำรวจได้เดินมาตบหน้าคนยิงที่นั่งอยู่ในซุ้ม จากนั้นฝ่ายคนยิงกับเพื่อนและลูกชายได้เดินออกจากร้านมาที่รถ โดยคนยิงได้เปิดประตูฝั่งซ้ายหยิบปืนออกมา ส่วนเพื่อนอีกคนเดินไปเปิดประตูขับรถ และให้ลูกชายเดินออกไปหน้าร้าน จากนั้นได้เปิดฉากใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงใส่กลุ่มตำรวจเข้าไปในร้าน 1 ชุด ก่อนจะขับรถกระบะออกไป โดยฝ่ายตำรวจได้ยิงตอบโต้ด้วยอาวุธปืน 9 มม. และเมื่อขับรถไปถึงปากซอย ก็ยิงใส่ฝ่ายตำรวจอีก 1 ชุด ก่อนขับรถหลบหนีไป

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้วทั้ง 2 คน โดยนายวันชัย หรือ “บอย” อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นคนยิง ถูกจับกุมได้ขณะหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านญาติ ในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พร้อมปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งซุกซ่อนไว้ในสวนยาง ส่วนอีกคน คือ นายณัฐพล อายุ 25 ปี เพื่อนที่ร่วมก่อเหตุ ถูกจับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.สิงหนคร พร้อมรถกระบะที่ทั้ง 2 คน ใช้ขับหลบหนีหลังก่อเหตุ โดยขณะนี้ทั้ง 2 คน ถูกคุมตัวมาสอบสวน และแจ้งข้อหาดำเนินคดีที่ สภ.สิงหนคร. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้