ม.รามฯ ยืนยันไม่เคยทารุณสุนัขจรจัดในทุกกรณี

ม.รามฯ 13 พ.ค.-ม.รามคำแหง ชี้แจงยืนยันไม่เคยทารุณสุนัขจรจัดในทุกกรณี ย้ำหากโซเชียลยังไม่หยุดเผยแพร่จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 


เฟซบุ๊ก PR Ramkhamhaeng University โพสต์ข้อความระบุว่า ตามที่มีกลุ่มบุคคลได้เผยแพร่ข้อมูลทางโซเชียลมีเดียกล่าวหาว่ามหาวิทยาลัยรามคำแหงมีการกำจัดสุนัขจรจัด และมีการกระทำต่างๆ ที่เป็นการทารุณสุนัขจรจัดภายในบริเวณมหาวิทยาลัยนั้น


มหาวิทยาลัยรามคำแหงขอยืนยันว่า มหาวิทยาลัยไม่เคยมีการกระทำดังกล่าวในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการทำร้าย หรือจับฝังทั้งเป็น รวมทั้งไม่เคยมีการโบกปูนเพื่อปิดทางเข้าออกของสุนัข ตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด ซึ่งการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเช่นนี้ ทำให้มหาวิทยาลัยได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวหยุดการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นการใส่ร้ายป้ายสีมหาวิทยาลัย เพราะการกระทำเช่นนั้นเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มิเช่นนั้นมหาวิทยาลัยจะดำเนินการเอาผิดทางกฏหมายกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวต่อไป

“ขอยืนยันว่ารามคำแหงไม่มีนโยบายในการกำจัดสุนัขจรจัด และไม่เคยสั่งการให้เจ้าหน้าที่คนใดทำร้ายสุนัขเช่นที่ถูกกล่าวหา หากผู้กล่าวอ้างมีหลักฐานก็ขอให้ส่งหลักฐานมาให้มหาวิทยาลัย เพื่อจะได้พิจารณาข้อเท็จจริง ซึ่งหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมตามที่กล่าวอ้าง มหาวิทยาลัยจะพิจารณาลงโทษทางวินัยต่อไป”

ขณะที่ภายในเฟซบุ๊กยังได้นำภาพและข้อความ “เสียงจากบัณฑิตราม” ที่ออกมายืนยันในเรื่องนี้


“เป็นอีกหนึ่งคนที่ตามเรื่องนี้มาโดยตลอดตามสื่อโซเซียลต่างๆ เริ่มจาก 2-3 ปีที่แล้ว ตามเพจ/กลุ่มเกี่ยวกับน้องหมาได้นำเสนอเรื่องการฝังหมาโดยการโบกปูน (เพื่อวัตถุประสงค์อะไร เพื่อกำจัดปัญหาหมาจรในมหาวิทยาลัย หรือเพื่อการจัดพิธีรับปริญญา) แต่การนำเสนอข่าวจะมาก่อนช่วงใกล้ๆ รับปริญญา ปีที่แล้วก็มีข่าวนี้ในโซเซียลค่ะ แต่ไม่เป็นประเด็นเหมือนปีนี้ แต่ก็มีข้อให้น่าสังเกตนะคะ 

สื่อทีวีได้ไปสำรวจพบโครงกระดูกน้องหมา ทำไมพบโครงกระดูกน้องหมาเพียงโครงเดียว ตัวที่พบเขาอาจจะป่วยแล้วตายหรือเปล่า แล้วถ้ามีการโบกปูนปิดจริงๆ หมากี่ร้อยชีวิตที่ต้องตาย ทำไมเจอซากแค่ซากเดียว แล้วเรื่องกลิ่นละ หมาตายตั้งเยอะ กลิ่นไม่ตลบอบอวลเลยหรอ–หลักฐานที่เป็นคลิปที่ว่า มีการนำปูนมาโบกทับ เสนอหลักฐานแล้วว่ากันตามกฎหมายต่อไปค่ะ

มีการใช้ดินปิดรู แล้วนำใบไม้มาปิดรู เพื่อไม่ให้น้องหมาออกมา ข้อเท็จจริงตรงนี้ ต้องตรวจสอบค่ะ ไม่รู้ว่าจุดประสงค์จริงๆ จะปิดเพื่ออะไร

ที่รามคำแหงใต้ตึกมีโพรงแทบทุกตึกค่ะ นอกจากตึกใหม่ๆ ที่ยังไม่มี น้องหมาก็ชอบเข้าไปอาศัยตามโพรง สมัยเรียนชอบไปเล่นกับน้องหมา จนตอนนี้เรียนจบแล้ว น้องหมาก็ยังอยู่ปกติดีค่ะ บางตัวก็มีลูก มีหลาน หมาที่รามไม่มีนิสัยดุร้าย 99% เป็นหมาปกติไม่ทำร้ายคน ทุกปัญหามีทางออกค่ะ เราต้องคุยกันด้วยหลักฐาน ไม่ใช่เถียงกันไปกันมา และที่สำคัญ คนที่เสพข่าว แล้วพาลด่ามหาลัย  มหาลัยเสียหายนะคะ รู้ค่ะว่ารักสัตว์ แต่ใจเย็นๆ ก่อนดีไหมคะ หาข้อเท็จจริง กลั่นกรองข้อมูล ให้ข้อเท็จจริงออกมาก่อน ค่อยแสดงความเห็น แล้วหาทางออกกันดีกว่าค่ะ” .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น