กองสลากพลัส งัดหลักฐานโชว์ที่มาเงิน 50 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 13 ม.ค. – “นอท” เจ้าของกองสลากพลัส งัดสำเนาเช็ค ยืนยันที่มาเงินกว่า 50 ล้านบาท เป็นเงินจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ปฏิเสธฟอกเงินให้ธุรกิจสีเทา ชี้ แพลตฟอร์ม “กระเป๋าตังค์” ก็เก็บเงิน 1% จากผู้ที่ถูกรางวัล


นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท” เจ้าของกองสลากพลัส และนายกสมาคมผู้ค้าสลากออนไลน์ เปิดสำนักงานแถลงโชว์หลักฐานสำเนาเช็ค 2 ฉบับ เป็นเงินกว่า 50 ล้านบาท ที่กำลังถูกตรวจสอบเนื่องจากเป็นเงินที่โอนเข้ามาจากผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน โดยยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินในธุรกิจสีเทา หลังพนักงานสอบสวนศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เรียกให้ปากคำในฐานะพยาน ยืนยันเงิน 2 รายการ แบ่งเป็นรายการแรกกว่า 42 ล้านบาท และรายการที่ 2 กว่า 11 ล้านบาท ที่มีการโอนเขาบัญชีส่วนตัวของตน เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 เป็นเงินที่นำลอตเตอรี่จากลูกค้าที่ถูกรางวัลไปขึ้นเงินรางวัลกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีนาย อ. บุคคลที่ตนกำลังเจราจาขอกู้เงินเพื่อมาลงทุน เป็นผู้รับมอบอำนาจจากตนเพื่อไปขึ้นเงิน เนื่องจาก นาย อ. ต้องการความมั่นใจก่อนให้กู้เงิน และทราบขั้นตอนการขึ้นเงิน ซึ่งกองสลากฯ ได้สั่งจ่ายเช็ค 2 ฉบับ หลังจากนั้นนาย อ.ได้โอนเงินเข้าบัญชีตน จึงเป็นที่มาของการถูกตรวจสอบ

“ยอมรับเป็นความโง่ และความผิดพลาดที่ไม่ตรวจสอบประวัตินาย อ. ให้ดีเสียก่อน ซึ่งนาย อ.เป็นบุคคลธรรมดาและไม่ใช่คนมีสี ส่วนคดีที่นาย อ.ถูกดำเนินคดีเกิดขึ้นหลังจากที่ไปขึ้นเงินที่กองสลากฯ โดยนาย อ.ถูกจับเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2565 ปัจจุบันไม่ได้คุยธุรกิจกันแล้ว เพราะตนต้องการแค่เงินกู้ แต่นาย อ. ต้องการเข้ามาเป็นหุ้นส่วน ทั้งนี้ เคยเจอกันแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบกันอีก จึงไม่ขอพูดในรายระเอียดของ นาย อ.ว่าเป็นใครและถูกดำเนินคดีอย่างไร”


นายพันธ์ธวัช กล่าวต่อว่า วันนี้ไปให้ปากคำในฐานะพยาน ซึ่งพนักงานสอบสวนยังขอให้ตนนำหลักฐานที่มาของเงินอีก 39 รายการ รวมประมาณ 1 พันล้านบาท ให้ตรวจสอบ  โดยให้เวลา 2 สัปดาห์ เบื้องตนยืนยันเป็นเงินหมุนเวียนที่ได้จากการค้าสลากออนไลน์ ไม่ใช่เงินไม่ถูกต้อง พร้อมระบุตนเป็นเจ้าของสลากพลัสแต่เพียงผู้เดียว ถือหุ้นร้อยละ 94 ส่วนอีก 6% เป็นพนักงานที่ร่วมทำงานกันมาตั้งแต่ก่อตั้งแพลตฟอร์ม จึงได้หุ้นเป็นผลตอบแทน และปัจจุบันตนก็เป็นหนี้นับพันล้านบาท

สำหรับคดีที่ถูกตำรวจ ปคบ.แจ้งข้อหาความผิด พ.ร.บ.ขายตรง และการตลาดแบบตรง เป็นคดีล่าสุดที่ถูกดำเนินคดีนั้น หลังจากนี้จะต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ยืนยันว่าไม่ได้จำหน่ายสลากเกินราคา แต่มีค่าดำเนินการที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการซื้อสลากออนไลน์ เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มกระเป๋าตังค์ของรัฐ ที่เรียกเก็บเงิน 1% เมื่อผู้ที่ถูกรางวัลนำสลากไปขึ้นเงิน

“นอท” ยังระบุว่า หลังเป็นข่าวยิ่งทำให้สลากงวดวันที่ 17 ม.ค.66 ซึ่งลงขายจำนวน 10 ล้านใบ ขายดีและแทบจะไม่พอขาย แต่เหตุที่ขายล่าช้า 3 วัน ชี้แจงว่าเนื่องจากสลากมาแพง ใบละ 99.50 บาท จึงรออยู่ 3 วัน ให้ราคาสลากผ่อนลง จึงเริ่มซื้อมาขาย ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ใช่สายมู จึงไม่เชื่อเรื่องดวงในกรณีที่ถูกตตรวจสอบ และการดำเนินคดีเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ตั้งแต่ต้นปี 2566. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง