กรุงเทพฯ 16 ม.ค. – สำนักงานสลากฯ ร่วมบูรณาการแก้ปัญหาสลากเกินราคา และแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างจริงจัง ในทุกฐานความผิดจากทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมพิจารณาตัดสิทธิตัวแทนที่ขายส่งสลากให้แพลตฟอร์มเอกชน
วันนี้ (16 มกราคม 2566) พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ฐายุฎฐ์ จันทร์ถาวร รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.นภันส์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับ พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้แทนสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) กรมสรรพากร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าตรวจค้น บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด (กองสลากพลัส) เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบการกระทำความผิดฯ อาคารเอสเอสพี ทาวเวอร์ 1 เลขที่ 555/57 ซอยสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.
พล.ต.ท.ประจวบ เปิดเผยว่า การตรวจค้นวันนี้ เนื่องจากได้รับร้องเรียนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มาแจ้งความกับตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ ปคบ. ว่าพบกองสลากพลัส มีพฤติการณ์ขายสลากเกินราคาและมีจำนวนสลากมาก คาดว่าเกิดจากการกว้านซื้อ เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน ซึ่งทางสำนักงานกินแบ่งรัฐบาลยืนยันว่ากองสลากพลัสไม่ได้รับสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงมีการขอหมายค้นเข้าตรวจสอบในวันนี้
พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การดำเนินการกับแพลตฟอร์มเอกชนที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนด ไม่ว่าจะรวมค่าบริการเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม สำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ สำนักงานสลากฯ ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ในความผิดฐานขายสลากเกินราคา ปัจจุบันศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายฯ (ปิดเว็บไซต์) ไปแล้ว 12 แพลตฟอร์ม กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการอุทธรณ์ โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 2 แพลตฟอร์ม และอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาล จำนวน 1 ราย ในขณะเดียวกันสำนักงานสลากฯ ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และขอยืนยันว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับกองสลากพลัส ไม่เคยให้สิทธิ์ในการจำหน่ายสลาก และการขายสลากของแพลตฟอร์มดังกล่าว ก็ไม่สามารถควบคุมผู้ซื้อที่อายุต่ำกว่า 20 ปีได้
สำหรับการตรวจค้นในครั้งนี้ สำนักงานสลากฯ จะร่วมเข้าไปตรวจสอบสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 11 ล้านใบว่าเป็นสลากของจริงหรือไม่ หากพบว่าเป็นสลากจริงก็จะตรวจสอบเพิ่มว่ามีที่มาจากแหล่งใด เพื่อดำเนินการยกเลิกสัญญา หรือสิทธิการเป็นผู้ซื้อจอง-ล่วงหน้าฯ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตามสัญญาและหลักเกณฑ์ในการรับสลากไปจำหน่าย ซึ่งระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้ขายจะต้องไม่ขายสลากเกินราคาที่กำหนดไว้ในสลาก ไม่ว่าจะเป็นการขายโดยเรียกร้องให้ผู้ซื้อ ซื้อสิ่งของอื่นรวมอยู่ด้วยหรือไม่ และรวมทั้งการร้องขอประโยชน์ในลักษณะอื่นใด ถ้าผู้ขายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามให้ถือว่าผิดสัญญา รวมถึงนำสลากของตนไปขายให้แก่ผู้อื่นเพื่อนำไปรวมชุด หรือแลกเปลี่ยนสลากกับผู้อื่น หรือหากตรวจพบว่า สลากของผู้ขายไปวางไว้เพื่อเตรียมจำหน่ายที่จุดจำหน่ายของผู้อื่นนอกเหนือจากจุดที่ได้ระบุไว้ ให้สันนิษฐานว่าไม่ได้ขายสลากด้วยตนเอง และถือว่าเป็นการผิดสัญญาซึ่งสำนักงานสลากฯ มีสิทธิบอกเลิกสัญญา หรือยกเลิกสิทธิการเป็นผู้ลงทะเบียนซื้อ-จองล่วงหน้าได้ทันที รวมถึงสลากในส่วนของสมาคม/องค์กร สำนักงานสลากฯ จะยกเลิกสิทธิในการรับสลากไปจำหน่ายของสมาชิกในสมาคม/องค์กรนั้นๆ ทันทีเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการตรวจค้นการจำหน่ายสลากครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อต้องการแก้ปัญหาสลากเกินราคาและการจำหน่ายสลากแบบผิดกฎหมายอย่างจริงจัง ไม่ได้มีเจตนาจะเข้าไปตัดสิทธิตัวแทนจำหน่าย แต่การตัดสิทธิเป็นผลที่จะต้องดำเนินการเมื่อพบความผิดตามมา เพราะหากไม่ดำเนินการตัดสิทธิ จะถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
สำหรับกรณีการโฆษณาทางสื่อต่างๆ ซึ่งรัฐบาลเคยมีมติ ครม. เมื่อปี พ.ศ. 2551 ที่ห้ามโฆษณาจูงใจให้ประชาชนเนื่องจากไม่ต้องการส่งเสริมการพนัน แต่ปรากฏว่ายังมีการโฆษณาของกองสลากพลัส โดยทางสำนักงานสลากฯ ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ควบคุมดังกล่าวแล้ว ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวย้ำอีกว่า ในส่วนของการดำเนินการแก้ปัญหาสลากเกินราคาและแพลตฟอร์มเอกชนต่างๆ นั้น สำนักงานสลากฯ จะมีการดำเนินการอย่างจริงจังในทุกฐานความผิดจากทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการยกเลิกสัญญาตัวแทนจำหน่าย ตลอดจนยกเลิกสิทธิในการทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ตลอดชีพโดยไม่มีข้อยกเว้น
ส่วนการจำหน่ายสลากดิจิทัลผ่านแอปฯ เป๋าตัง ของสำนักงานสลากฯ เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน มีการยืนยันตัวตนผู้ใช้งานผ่านบัตรประชาชนก่อนซื้อ สามารถป้องกันผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้ามาซื้อสลาก และมีการขออนุญาตประกอบธุรกิจตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 โดยสลากทุกใบในแอปฯ เป๋าตังเป็นของตัวแทนรายย่อยและทุกใบราคา 80 บาท .-สำนักข่าวไทย