เปรู 12 ม.ค. – ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเปรูเดินหน้าประท้วงต่อ แม้จะมีการประกาศเคอร์ฟิว ขณะที่สหรัฐเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นและหันมาเจรจากัน
แม้ว่ารัฐบาลเปรูได้ประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ภาคใต้เป็นเวลา 3 วัน เพื่อควบคุมสถานการณ์ แต่กลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลยังคงเดินหน้าประท้วงอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ผู้ชุมนุมพากันปิดถนน และมีการจัดพิธีศพให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะกับตำรวจในเมืองจูเลียกา เมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 17 คน บรรดาผู้ประท้วงและสมาชิกในครอบครัวของผู้เสียชีวิตช่วยกันแบกโลงศพ ซึ่งคลุมด้วยธงชาติเปรูและมีข้อความติดเอาไว้ว่า พวกเขาถูกประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต เข่นฆ่า เข้าร่วมการชุมนุมด้วย
ศูนย์กลางของการประท้วงอยู่ในเขตปูโน ทางภาคใต้ ซึ่งติดกับพรมแดนโบลิเวีย ในพื้นที่ดังกล่าวมีชนพื้นเมืองชาวอัยมาราอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เวลานี้ผู้ประท้วงได้ปิดถนนในภูมิภาคไปแล้วถึง 8 เขตจากทั้งหมด 25 เขต และที่เมืองซัสโกซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวศูนย์กลางของจักรวรรดิอินคาเกิดเหตุปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 22 คน ในจำนวนนี้เป็นตำรวจ 6 คน ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยระบุว่า มีตำรวจอาการสาหัส 1คน นอกจากนี้ยังมีการประท้วงเกิดขึ้นในอีกหลายเมือง
นับตั้งแต่การประท้วงเริ่มขึ้นเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากที่นายเปโดร คาสตินโญ ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี และถูกตำรวจจับกุมตัวโดยทันที จากความผิดหลายข้อ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ผู้ประท้วงเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโบลูอาร์เตลาออก และจัดการเลือกตั้งใหม่ทันที
จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงแล้ว 40 คน ล่าสุดสหรัฐเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในเปรูใช้ความอดกลั้น หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง และขอให้ทุกฝ่ายหันมาเจรจากันเพื่อหาทางออก
ขณะที่สำนักงานอัยการแห่งชาติเปรูเผยว่า เวลานี้กำลังเปิดการสอบสวนประธานาธิบดีโบลูอาร์เต และนายกรัฐมนตรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลอีกหลายคนว่า เข้าข่ายกระทำความผิดฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่. – สำนักข่าวไทย