อุบลราชธานี 10 ม.ค. – ออกหมายจับพระใช้ค้อนทุบหัวสาว 17 ปี อาการสาหัส จ.อุบลราชธานี หวั่นหลบหนีออกทางชายแดน เพราะเคยเดินธุดงค์ รู้เส้นทางดี ขณะที่ชาวบ้าน แฉพระรูปดังกล่าว ติดหนี้ไปทั่ว
เหตุการณ์สะเทือนขวัญ เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.66) พระอุทิศ อายุ 56 ปี (ตอนนี้พ้นสภาพสงฆ์) อดีตพระลูกวัดบ้านนาแก อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี หลอกสาว อายุ 17 ปี อ้างจะจ้างให้เอาจีวรไปซัก แต่เมื่อหญิงสาวเข้าไป กลับใช้ค้อนตอกตะปูทุบหัวจนบาดเจ็บสาหัส จากนั้นได้นำรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บหลบหนีไป
วันนี้ (10 ม.ค.) พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ศรีบุตตะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพิบูลมังสาหาร เรียกประชุมติดตามการสอบสวนพยานแวดล้อม ทั้งยายของผู้บาดเจ็บ และพระในวัดเพื่อมาประกอบสำนวนคดี และล่าสุด พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายอุทิศ จากศาลจังหวัดอุบลราชธานี ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และได้ส่งหมายจับไปยังพื้นที่ สภ.ใกล้เคียง และพื้นที่ชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน เพราะนายอุทิศ หลังจากที่บวชเคยเดินธุดงไปยัง สปป ลาว จึงคาดว่าน่าจะรู้จักเส้นทางที่หลบหนี ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.พิบูลมังสาหาร สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี และผู้นำชุมชน รวมทั้งฝ่ายปกครอง ได้ออกติดตามไปยังบ้านพักของญาติและเพื่อนในพื้นที่ใกล้เคียง แต่ก็ยังไม่พบตัวแต่อย่างใด
ขณะที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานี ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปพบ พระวิสุทธิวโรภาส เจ้าคณะตำบลระเว และพระอธิการพุฒิชัย เจ้าอาวาสวัดบ้านนาแก เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพื่อรายงานไปยังกรมการศาสนา โดยพระวิสุทธิวโรภาส เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองได้ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเตรียมเรียกเจ้าอาวาสในพื้นที่มาประชุมหารือ ส่วนผู้ที่ก่อเหตุ ตอนนี้ขาดความเป็นสงฆ์แล้ว
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ ออกมาให้ข้อมูลว่า อดีตพระอุทิศชอบยืมเงินของชาวบ้านแล้วไม่ใช้คืน ตนเองให้ยืมไป 1,500 บาท จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คืน เวลาเจอกันก็จะอ้างว่าเดี๋ยวจะเอาให้ ตอนนี้ยังไม่มี ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่านำเงินไปทำอะไร
สอดคล้องกับพระลูกวัดรายหนึ่ง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า อดีตพระอุทิศใช้เงินเปลือง เกินตัว ยืมเงินไป 4,000 บาท ยังไม่ใช้คืน และยังให้ไปยืมญาติโยมมาให้อีก 1,500 บาท รวมกันแล้วหลายรายเกือบหมื่น ระยะหลังมักมีอาการคุยคนเดียว ตนเลยไม่ค่อยเข้าไปยุ่ง ส่วนเรื่องที่ผู้บาดเจ็บ เข้ามาหานั้น ตนไม่เคยทราบมาก่อน และไม่ทราบว่าก่อนหน้าเคยมาหรือไม่ แต่รู้ว่าหญิงคนดังกล่าว และครอบครัว เป็นญาติกันห่างๆ นับถือกัน
สำหรับอาการของผู้บาดเจ็บ ล่าสุดแพทย์ได้ผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อยู่ในห้องไอซียู เพื่อรอดูอาการอย่างใกล้ชิดและทางด้านเพจ “ตะลึงกรุง จอนนี่มือปราบ” ซึ่งเป็นเพจที่ไลฟ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ขึ้นข้อความพร้อมภาพ เพื่อขอให้ประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุ พร้อมตั้งรางวัลให้ 20,000 บาท .-สำนักข่าวไทย