กรุงเทพฯ 29 ธ.ค. – “แทนคุณ” พาผู้เสียหายคดี “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” ร้อง ผบ.ตร. ตรวจสอบทรัพย์สินที่เชื่อว่ามีซุกซ่อนจำนวนมาก คืนให้กับผู้เสียหาย ติดใจการหลบหนีเชื่อมีคนในรู้เห็น
วันนี้ (29 ธ.ค.) เวลา 10.00น. นายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหายประมาณ 30 ราย นำเอกสารเข้าร้องเรียน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยมี พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับมอบกรณีช่วยเร่งรัด ติดตามคดี นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท โดยเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากมีการเผยแพร่ภาพทรัพย์สินและเส้นทางการเงิน ที่ไม่สอดคล้องกับมูลค่าความเสียหายจริง รวมถึงตั้งข้อสังเกตว่ามีกลุ่มบุคคลพยายามช่วยเหลือนายประสิทธิ์ จนกระทั่งพยายามหนีระหว่างนำตัวขึ้นศาล
โดยนายแทนคุณ กล่าวว่าวันนี้มาเรียกร้องใน 3 ประเด็น ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก บางรายถึงขั้นฆ่าตัวตาย บางรายไม่มีกินถึงกับต้องเข้าไปขอข้าววัดกิน รวมทั้งในเรื่องของการหลบหนีที่คาดว่าจะต้องมีกลุ่มบุคคลเข้ามาช่วยเหลือนายประสิทธิ์ มากกว่าที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเรื่องกุญแจที่ทางกรมราชทัณฑ์อ้างว่าอาจจะเป็นการอมเข้าไปไว้ในปากนั้น ไม่น่าจะเป็นข้อเท็จจริง ส่วนทรัพย์สินที่หน่วยงายรัฐระบุว่าตรวจยึดมาได้กว่า 200 ล้านบาท เชื่อว่าอาจจะมีการคลาดเคลื่อนกับความเป็นจริง เพราะทราบข้อมูลว่านายประสิทธิ์ ได้มีการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่เป็นเงินสดให้อยู่ในรูปของทองคำ กระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏในการยึดทรัพย์ จึงกลัวว่าอาจจะมีการตกหล่น ทำให้ไม่สามารถมาเฉลี่ยทรัพย์กับผู้ที่เข้าแจ้งความตามกฎหมาย ดังนั้นจะรอการชี้แจงความชัดเจนของการหลบหนีจากกรมราชทัณฑ์และการยึดทรัพย์ของ ปปง. โดยจะมีการนำหลักฐานเรื่องทรัพย์สินเข้าไปยื่นให้กับ ปปง.ตรวจสอบเพิ่มเติม รวมถึงอยากทราบว่าการที่ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ลาออกจากตำแหน่ง จะมีผลกระทบกับการยึดทรัพย์หรือไม่
ส่วนนายสาทร หนึ่งในผู้เสียหาย ยอมรับว่าตนเองร่วมลงทุนไปกับนายประสิทธิ์ จำนวน 12.4 ล้านบาท ในรูปแบบการลงทุนซื้อทัวร์ มัลดาวี, กองทุนท่านประธาน, สหกรณ์ออมทรัพย์ โดยนายประสิทธิ์ พร้อมทีมงานได้เข้ามาชักชวนให้ร่วมลงทุน ตั้งแต่ปี 61-63 ลักษณะให้ผลตอบแทนดี เช่น ซื้อทอง 2 แสนบาท ได้รับทองกลับมา 1 บาททันที หรือลงทุน 6 แสนบาท ได้ทองกลับมา 3 บาท ทำให้ตนเองหลงเชื่อและได้มีการนำเงินลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมาทราบข้อเท็จจริงว่าถูกหลอก ส่งผลให้ปัจจุบันได้รับความเดือดร้อน เพราะเงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินเกษียณอายุ และมีอาการเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงหวังว่าหากเจ้าหน้าที่มีการแบ่งทรัพย์ ก็จะได้เงินคืนประมาณ 30% จากที่เสียหาย
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าในส่วนคดีฉ้อโกงของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ที่ บก.ปอศ. รับผิดชอบมีทั้งหมด 6 คดี คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือน ก.พ.66 ส่วนทรัพย์สินที่ตรวจยึดจากกลุ่มผู้ต้องหานั้น ขณะนี้ทางทีมงานสามารถตรวจยึดได้เพิ่มเติม อยู่ระหว่างการขยายผล ตรวจทั้งเส้นทางการเงิน คาดว่าจะทราบจำนวนทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดเร็วๆ นี้ ส่วนคดีการหลบหนีของนายประสิทธิ์นั้น สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างการขยายผล หลังจากมีการดำเนินคดีกับนายประสิทธิ์ พร้อมพวกรวม 4 คน ซึ่งหากหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใครก็ไม่มีละเว้น. -สำนักข่าวไทย