กาญจนบุรี 4 พ.ค.-แม่วัย 27 ปี ร้องสื่อถูกอดีตสามีที่ตามง้อขอคืนดี งัดบ้านเข้ามาเพื่อนำตัวลูกวัยเพียงเดือนเศษออกไปกลางดึก ขณะที่พ่อเข้าห้ามกลับถูกอดีตสามีทำร้ายบาดเจ็บ ด้านตำรวจทำได้แค่ลงบันทึกประจำวันและดำเนินคดีเพียงข้อหาเมาแล้วขับ ผู้เสียหายหวั่นครอบครัวไม่ปลอดภัย เพราะอดีตสามีรู้จักผู้มีอิทธิพลหลายคน ทำให้ตำรวจไม่กล้าเอาผิด
น.ส.ปาริชาติ อายุ 27 ปี คุณแม่ลูกสอง เข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ว่า ถูกนายนัธทวัฒน์ อายุ 36 ปี อดีตสามีที่มาตามง้อขอคืนดี งัดบ้านเข้ามาช่วงกลางดึก เวลา 01.30 น.ของวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา และพยายามจะอุ้มลูกสาววัยเพียงเดือนเศษออกไปจากบ้าน แต่ น.ส.ปาริชาติ ไม่ยอม และได้โทรศัพท์แจ้งนายชาตรี อายุ 53 ปี พ่อของตน ให้มาช่วยห้ามอดีตสามี เมื่อพ่อของ น.ส.ปาริชาติ มาถึงก็เกิดการยื้อยุดกันขึ้น โดยอดีตสามีพยายามจะอุ้มลูกขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อหลบหนี และทำร้าย น.ส.ปาริชาติ กับพ่อ ได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้แจ้งตำรวจสายตรวจเข้ามาระงับเหตุ และนำตัวทั้งหมดไปที่ สภ.ท่าม่วง ขณะที่พ่อของ น.ส.ปาริชาติ ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่ได้ดำเนินคดีกับอดีตสามีที่งัดบ้านเข้ามาและทำร้ายร่างกาย น.ส.ปาริชาติและพ่อ จนได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
กระทั่ง น.ส.ปาริชาติได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจวัดแอลกอฮอลล์กับอดีตสามี ทำให้อดีตสามีถูกจับดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับ แต่ก็ได้รับการประกันตัวออกมาเรียบร้อยแล้ว ทำให้ น.ส.ปาริชาติและครอบครัว ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เพราะกลัวว่าอดีตสามีจะย้อนกลับมาทำร้าย ขณะที่เมื่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำไมจึงไม่ดำเนินคดีกับนายนัธทวัฒน์ ก็ได้รับคำตอบว่า ต้องรอก่อนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ครอบครัวของตนไม่มั่นใจในความปลอดภัยเพราะทราบมาว่า นายนัธทวัฒน์ รู้จักกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อำเภอท่าม่วงหลายคน อาจทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กล้าดำเนินคดี
น.ส.ปาริขาติจึงตัดสินใจออกมาเรียกร้องผ่านสื่อ เพื่อขอความเป็นธรรม โดยล่าสุด ได้มีเพื่อนบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ได้นำคลิปวิดีโอวันเกิดเหตุที่ถ่ายโดยโทรศัพท์มือถือมามอบให้ น.ส.ปาริชาติ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตสามีแล้ว.-สำนักข่าวไทย