เชียงใหม่ 8 ธ.ค. – คดีล่อลวงเด็กนักเรียนหญิงวัย 13 ปี จากหอพักโรงเรียนที่ จ.เชียงใหม่ ไปมอมเหล้าและล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งจับกุมผู้ต้องหาแล้ว 1 ราย แต่ยิ่งสาวยิ่งเจอ โดยพบเด็กหญิงอายุ 12-18 ปี ตกเป็นเหยื่อเกือบ 10 รายแล้ว บางคนถูกผู้ชายล่วงละเมิดกว่า 20 คน ที่น่าตกใจกว่านั้น ในจำนวนคนที่ล่วงละเมิดเป็นเยาวชนชายหลายคน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสาวไปถึงขบวนการค้าประเวณีกลุ่มนี้
พ่อแม่ของเด็กนักเรียนหญิงวัย 12-18 ปี จากหลายโรงเรียนใน อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ รวม 9 คน ยังคอยติดตามข่าวและให้กำลังใจลูกสาวที่ตกเป็นเหยื่อถูกล่อลวงและล่วงละเมิดทางเพศ โดยพ่อของเด็กหญิงที่อายุน้อยที่สุดด้วยวัยเพียง 12 ปี บอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกสาวตกเป็นเหยื่อในครั้งนี้ด้วย รู้สึกเสียใจและสงสารลูกมาก
ขณะที่พ่อแม่ของเด็กหญิงวัย 14 ปีคนหนึ่ง ซึ่งลูกสาวเข้าพบตำรวจและบอกว่า ชาย 2 คน ล่อลวงไปให้ผู้ชายล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อ 5 วันก่อน ติดกันถึง 4 วัน รวมกว่า 20 คน โดยเฉพาะวันสุดท้ายที่ถูกล่วงละเมิดถึง 11 คน โดยพาตำรวจไปดูจุดเกิดเหตุและเก็บหลักฐานไปเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) ก่อนส่งตัวเด็กไปอยู่ในความดูแลของ พม.ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งจากการสืบสวนล่าสุดทราบชื่อกลุ่มชายทั้ง 11 คน ที่ล่วงละเมิดเด็กหญิงรายนี้แล้ว เตรียมออกหมายจับได้ 6 คน น่าตกใจมากกว่านั้น พบกลุ่มที่ล่วงละเมิดเด็กหญิงคนนี้เป็นเยาวชนชายอายุ 13-16 ปี อีก 5 คน ซึ่งตำรวจให้ผู้ปกครองพาตัวมาให้ปากคำในวันนี้ ก่อนปล่อยตัวไปก่อน
สำหรับเด็กนักเรียนหญิงที่ตกเป็นเหยื่อทั้ง 9 ราย เชื่อมโยงมาจากคดีล่อลวงเด็กหญิงวัย 13 ปี จากหอพักโรงเรียนแห่งหนึ่งไปมอมเหล้าที่ร้านน้ำปั่น เมื่อคืนวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และพ่อพาเข้าแจ้งความ จนจับกุมตัวนายโอ๊ต วัย 29 ปี ได้เมื่อวานนี้ พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก และวันนี้ยังมีเหยื่อนักเรียนสาววัย 18 ปี มาชี้ตัวถูกนายโอ๊ตอนาจารอีกข้อหา
นอกจากนี้ยังจับกุมตัวนายแมค วัย 33 ปี ผู้ต้องหาที่อนาจารเด็กหญิงวัย 14 ปี อีกคนหนึ่ง หลังผู้เสียหายชี้ตัวได้อย่างแม่นยำ
คดีนี้พบเด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อก่อนหน้านี้ 3 ราย และวันนี้มีเพิ่มอีก 6 ราย รวมเป็น 9 ราย โดยส่งตัวไปอยู่ในความดูแลของ พม. 8 ราย ส่วนอีกรายอายุ 18 ปีแล้ว คาดว่าจะมีเหยื่ออีกหลายราย และกำลังเร่งสืบสวนหาตัวผู้ร่วมขบวนการ รวมทั้งลูกค้าที่ล่วงละเมิดเด็ก มาดำเนินคดี
ทั้งนี้ ตำรวจและนายอำเภอได้ลงพื้นที่สอบถามข้อมูลจากผู้นำชุมชน ซึ่งยอมรับว่า การจัดงานในพื้นที่มีการเรียกเด็กมาช่วยเอ็นเตอร์เทนอยู่บ้าง แต่เป็นเด็กที่โตแล้ว และส่วนใหญ่มาจากนอกพื้นที่ ซึ่งได้กำชับให้ช่วยกันสอดส่อง รวมทั้งให้โรงเรียนและผู้ปกครองช่วยดูแลลูกหลานให้มากขึ้น ป้องกันการถูกล่อลวงลักษณะนี้อีก. – สำนักข่าวไทย