กทม.3 พ.ค.- ตร.สายไหม เปิดวงจรปิด “ดีเจเชาเชา” ขับรถชน จยย.เสียชีวิต สาเหตุจาก จยย.พุ่งรถตัดเลนกะทันหัน ทำให้เบรกไม่ทัน เรียกเจ้าตัวสอบปากคำพรุ่งนี้(4 พ.ค.)
จากกรณีนายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม หรือดีเจเชาเชา ถูกระบุว่าขับรถชนท้ายรถจักรยานยนต์นายจิรภาษ ธงอาษา จนนายจิรภาษ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อเช้ามืดวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมาบริเวณ ถนนตัดใหม่วัชรพล-สุขาภิบาล 5 มุ่งหน้าสะพานใหม่ รักษาตัวที่โรงพยาบาลภูมิพล และไม่ช่วยเหลือเยียวยา ล่าสุดมารดานายจิรภาษ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อให้ช่วยติดตามความคืบหน้าคดี หลังนายจิรภาษเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา
พันตำรวจเอกธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผู้กำกับ สน.สายไหม เปิดเผยว่าได้เชิญตัวมารดาและญาติของผู้เสียชีวิตมาให้การเพิ่มเติม แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด ส่วนดีเจเชาเชา พนักงานสอบสวนได้ประสานเข้าให้ปากคำพรุ่งนี้ (4 พ.ค.) พร้อมประสานให้นำรถยนต์ยี่ห้อเลคซัส สีขาว ทะเบียน กฆ 6782 กรุงเทพมหานคร คันที่ใช้ในวันเกิดเหตุ มาให้เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หาร่องรอยการเฉี่ยวชน คาดได้รถยนต์มาตรวจสอบภายในเย็นวันนี้(3 พ.ค.) ส่วนข้อสงสัย มีการเฉี่ยวชนเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ได้ให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หากล้องวงจรปิดรอบจุดเกิดเหตุ จนได้วงจรปิดจากฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ ที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ช่วงเกิดเหตุไว้ได้
ในวงจรปิดปรากฏภาพกลุ่มรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย จอดรวมตัวที่ริมฟุตบาตของถนน ก่อนจับคู่คล้ายปล่อยรถแข่งขันเป็นคู่ๆจนเวลาประมาณ 00.16 น.ตามเวลาในกล้องวงจรปิด ซึ่งช้ากว่าเวลาจริง 3 นาที พบรถยนต์ของดีเจเชาเชา ขับอยู่เลนกลาง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ผู้ตาย ได้พุ่งออกมาจากขอบทางด้านซ้ายกะทันหัน ทำให้ถูกรถยนต์ของดีเจเชาเชาชนท้าย ก่อนจะล้มลงที่ช่องเลนขวา หลังเฉี่ยวชน ดีเจเชาเชา ได้ลงจากรถมาดูคนเจ็บก่อนจะขับเคลื่อนย้ายรถหายไปจากภาพกล้องวงจรปิด แล้วเห็นดีเจเชาเชา เดินย้อนกลับมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จนกระทั่งมีอาสาสมัครกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ รวมถึงดีเจคนดังยังติดตามไปส่งผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลภูมิพล ก่อนจะย้อนกลับมาลงบันทึกประจำวันที่ สน.สายไหม ในเวลา 02.00 น.
พันตำรวจเอกธนกรณฑ์ กล่าวต่อว่า จะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์มาร่วมตรวจสอบรถดีเจเชาเชาเพื่อหาร่องรอยเฉี่ยวชน พร้อมตรวจสอบภาพวงจรปิดอย่างละเอียด เพื่อดูว่าดีเจเชาเชามีการขับขี่รถยนต์ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่ หากพบว่ามีการใช้ความเร็ว ก็จะแจ้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเข้าข่ายความผิด ขับขี่รถเปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหันโดยประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ข้อหานี้ต้องถือว่ายุติ เพราะผู้กระทำผิดถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ได้ประสานดีเจเชาเชา มาให้ปากคำวันพรุ่งนี้ (4 พ.ค.).-สำนักข่าวไทย