นนทบุรี 29 พ.ย. – รันทด! ครอบครัวเก็บของเก่า 5 ชีวิต รถจอดเสียไม่มีเงินเติมน้ำมันต้องมานั่งขอทานเพื่อหาเงิน แต่ตรวจสอบแล้ว แค่เด็ก ๆ เล่นกัน ช่วงรอซ่อมรถ
บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบชายหนุ่มอายุประมาณ 50 ปี ผู้หญิงและเด็ก ๆ รวมกัน 5 คน จอดรถซาเล้ง และเอาเด็กพิการมานั่งขอทานหน้าปั๊ม ปตท. เห็นผู้หญิงอุ้มเด็กผู้ชายไว้บนตัก และมีเด็กอีกคนนั่งอยู่ข้างๆ และขันสีชมพูวางอยู่ เด็กๆนั่งยกมือไหว้คนที่ผ่านไปมา
โดยนายต่อ เล่าว่า บ้านของตนอยู่ที่ชุมชนวันแสงสิริธรรม จ.นนทบุรี และมีอาชีพเก็บของเก่าขายเด็ก ๆ ทั้ง 3 คน เป็นหลานของตน วันนี้ออกมาเก็บของเก่าขายกัน แต่รถเกิดเสีย เพราะน้ำมันเครื่องหมด ตนกลัวว่ารถจะระเบิดเลยต้องจอดรอให้เครื่องเย็นลงก่อน กะว่าพอเครื่องเย็นแล้วก็ว่าจะค่อยๆ ขับเอาของเก่าไปขาย จึงได้ให้พี่สาวและหลานๆ ลงจากรถไปนั่งคอย ไม่ได้จะเอาหลานๆ มานั่งขอทาน แต่หลานอยากช่วยหาเงินเพื่อที่จะซื้อน้ำมันเครื่อง จึงได้ตัดสินใจทำไป
ก่อนหน้านี้ช่วงน้ำท่วมได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ที่บ้านน้ำท่วมสูงเลยเข่า ตอนนี้น้ำลดลงแล้วแต่ก็มีข้าวของที่เสียหายจากน้ำท่วมและมีพวกสัตว์มีพิษเช่น งู ตะขาบ ที่อยู่ตามเศษไม้ที่ถูกน้ำท่วม ยิ่งหลานคนนึงพิการเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินไม่ได้ก็กลัวว่าจะได้รับอันตราย ตนจึงไม่อยากให้หลานอยู่บ้านเพียงลำพังจึงได้พาออกมาด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของครอบครัวนี้ ไปที่ชุมชนวัดแสงสิริธรรม ที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบกับนายต่อ เจ้าของรถซาเล้งคันดังกล่าว และครอบครัว รวมไปถึงหลาน อายุ 13 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคพิการทางสติปัญญาและกล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยภายในบ้านมีสภาพทรุดโทรมใกล้จะพัง พื้นบ้านทรุดเป็นแอ่งหลุม หลังคารั่ว กำแพงบ้านเผยอ ที่นอนก็ใช้ไม้ที่เขาบริจาคมาต่อให้สูงเพื่อให้พ้นจากน้ำท่วม
นายต่อ บอกว่า จากเหตุการณ์ที่เห็นหลานของตนนั่งถือขันทำเหมือนขอทาน ตนต้องขอโทษด้วย จริงๆแล้วไม่ได้พาหลานไปนั่งขอทาน แต่รถซาเล้งเสีย ส่วนขันสีชมพูที่เห็นก็เป็นขันที่เก็บได้จากถังขยะก่อนหน้านี้ เด็กๆ จึงเอาลงไปเล่นแหย่กัน ที่บ้านยากจนมาก ครอบครัวอาศัยอยู่กัน 10 คน ทำอาชีพเก็บของเก่า รายได้ก็ไม่แน่นอนบางวันก็เก็บของไม่ได้เลย เพราะไม่ทันรถเก็บขยะ บางวันดีหน่อยเก็บของได้เยอะ ก็เอาไปขายได้เงินมา 500 บาท ก็เอามาซื้อข้าวกินกันทั้งครอบครัว ส่วนรถซาเล้งคันที่เสีย ตอนนี้ก็ยังไม่มีเงินซื้อน้ำมันเครื่องมาเติม ก็ยังไม่รู้ว่าจะฝืนขับต่อไปอีกได้ไหม เพราะรถซาเล้งก็เช่าเขามา โดยจ่ายค่าเช่าคันละ 100 บาท ทั้งหมด 2 คัน แต่จะจ่ายอาทิตย์ละ 1 ครั้ง คือทุกอาทิตย์ตนจะต้องเตรียมเงินจ่ายค่าเช่ารถซาเล้ง 1,400 บาท ไหนจะค่าเช่าบ้านอีกเดือนละ 2,000 บาท ค่าน้ำค่าไฟที่รวมๆ แล้วตกเดือนละอีก 3,000 กว่าบาท โดยบ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ชีวิต และรายได้ทั้งหมดมาจากการเก็บของเก่าขายซึ่งเฉลี่ยจะอยู่ที่ราวๆ 200-300 บาท ไม่พอกับค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลทั้ง 10 ชีวิต
ช่วงน้ำท่วมที่บ้านโทรทัศน์ ตู้เย็น พังหมด เหลือเพียงหม้อหุงข้าวที่ยังใช้ได้ใบเดียว และได้รับถุงยังชีพเพียงแค่ 1 ถุง เท่านั้นก็ช่วยประคองมาได้ 2-3 วัน ตอนนี้ก็เป็นห่วงหลานที่พิการ จะให้น้องอยู่บ้านเพียงลำพังก็ไม่ได้ จึงต้องพาออกไปทำงานด้วยทุกวัน ตอนนี้อยากจะซ่อมแซมบ้านก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะพังตอนไหนกลัวว่าถ้ามันพังตอนหลานตนอยู่ในบ้าน ก็อยากจะขอวอนผู้ใจบุญ หากสามารถช่วยซ่อมแซมบ้านให้ ตนก็จะดีใจมากๆ และขอขอบคุณมากๆ ส่วนเรื่องรถซาเล้ง ตนก็อยากได้เป็นของตัวเอง จะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่าให้เขาตั้ง 2 คัน ตกจ่ายค่าเช่ารถซาเล้ง 2 คัน เดือนละ 6,000 บาท จะได้พอมีเงินเก็บเอาไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉินบ้าง. -สำนักข่าวไทย