ทีมนักบินอวกาศจีนเข้าสู่ยานสัมภาระ ‘เทียนโจว-5’ แล้ว

(แฟ้มภาพซินหัว : จรวดขนส่งลองมาร์ช-7 วาย6 ซึ่งบรรทุกยานสัมภาระเทียนโจว-5 ทะยานออกจากศูนย์ปล่อยยานอวกาศเหวินชาง มณฑลไห่หนานทางตอนใต้ของจีน วันที่ 12 พ.ย. 2022)

ปักกิ่ง, 14 พ.ย. (ซินหัว) — องค์การอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุมแห่งประเทศจีน เปิดเผยว่าทีมนักบินอวกาศประจำภารกิจเสินโจว-14 (Shenzhou-14) ได้เข้าสู่ยานสัมภาระเทียนโจว-5 (Tianzhou-5) เมื่อวันอาทิตย์ (13 พ.ย.) และจีนจะส่งยานสัมภาระตระกูลเทียนโจวสู่ห้วงอวกาศทุก 6 เดือนในอนาคต


ทีมนักบินอวกาศจีนได้เปิดประตูยานสัมภาระเทียนโจว-5 ตอน 14.18 น. ของวันอาทิตย์ (13 พ.ย.) ตามเวลาปักกิ่ง และเข้าสู่ด้านในตอน 15.03 น. หลังเตรียมงานเสร็จสิ้น โดยทีมนักบินอวกาศจะดำเนินการขนถ่ายสัมภาระและงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามแผนการ

จีนส่งยานสัมภาระเทียนโจว-5 ขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศ เมื่อวันเสาร์ (12 พ.ย.) เพื่อส่งมอบเสบียงสำหรับสถานีอวกาศของประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างและคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้


ระบบยานสัมภาระเป็นส่วนสำคัญของสถานีอวกาศจีนที่ประกอบรูปร่างเป็นโครงสร้างตัวที (T) แล้ว โดยยานสัมภาระจะดำเนินพันธกิจที่หลากหลายเพื่อให้การสนับสนุนนักบินอวกาศ การทดลองวิทยาศาสตร์อวกาศ และการทำงานของสถานีอวกาศ

ไป๋หมิงเซิง หัวหน้านักออกแบบยานสัมภาระเทียนโจวจากสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติจีน กล่าวว่ายานสัมภาระตระกูลเทียนโจว เริ่มตั้งแต่เทียนโจว-6 จะถูกอัปเกรดระบบต่างๆ อาทิ ห้องเก็บสัมภาระ และสมรรถนะการขนส่งสัมภาระของห้องโดยสารที่ปิดสนิท ขณะเสบียงที่ขนส่งสู่สถานีอวกาศจีนจะสนับสนุนนักบินอวกาศได้เป็นเวลานานขึ้น

กระบวนการก่อนปล่อยจรวดขนส่งลองมาร์ช-7 (Long March-7) ซึ่งเป็นจรวดบรรทุกยานสัมภาระตระกูลเทียนโจว ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพและความเหมาะสมยิ่งขึ้น โดยจงเหวินอัน หัวหน้าวิศวกรของศูนย์ปล่อยดาวเทียมซีชาง เผยว่าระยะเวลาทดสอบและปล่อยจรวดขนส่งลองมาร์ช-7 ในปัจจุบันลดลง 15 วัน เป็น 27 วัน


อนึ่ง จรวดขนส่งลองมาร์ช-7 วาย6 (Long March-7 Y6) ซึ่งบรรทุกยานสัมภาระเทียนโจว-5 ทะยานขึ้นตอน 10.03 น. ตามเวลาปักกิ่ง จากศูนย์ปล่อยดาวเทียมเหวินชาง มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ทางตอนใต้ของจีน และยานเทียนโจว-5 ทำการนัดพบและเทียบท่าอัตโนมัติกับสถานีอวกาศที่ท่าเทียบด้านหลังของโมดูลหลักเทียนเหอในอีกสองชั่วโมงถัดมา

คลิกเพื่ออ่านข่าวภาษาอังกฤษ
https://english.news.cn/20221113/3d8595b2d0894265bb3face5d56f096c/c.html
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.xinhuathai.com/china/320136_20221114
ขอบคุณภาพจาก Xinhua

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”