ผบ.ตร.วาง 5 มาตรการคุมเข้มความปลอดภัยลอยกระทง

กรุงเทพฯ 7 พ.ย.- ผบ.ตร.วาง 5 มาตรการ คุมเข้มความปลอดภัยลอยกระทง เฝ้าระวังเหตุทะเลาะวิวาท คดีทางเพศ แก๊งมิจฉาชีพตระเวนลักทรัพย์ การเล่นดอกไม้เพลิง วอนประชาชนลอยกระทงแบบสร้างสรรค์ สืบสานประเพณีไทย


วันนี้ (7 พ.ย.2565) เวลา 16.30 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. ร่วมกันตรวจความพร้อมและมาตรการรักษาความปลอดภัยการจัดงานลอยกระทงบริเวณสะพานพระราม 8 และในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ผบ.ตร.กล่าวถึงความพร้อมในการดูแลความเรียบร้อยในช่วงเทศกาลลอยกระทงว่า “ได้สั่งการให้ทุกหน่วย ทุกพื้นที่ ที่มีการจัดงานประเพณีลอยกระทง เพิ่มความเข้มดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจน้ำ กว่า 20,000 นาย ดูแลรักษาความปลอดภัยงานลอยกระทง โดยมีมาตรการสำคัญดังนี้


1) มาตรการป้องกัน ให้สายตรวจเพิ่มความเข้มการออกตรวจตรา ปรากฏกาย สถานที่จัดงาน สถานบริการ สวนสาธารณะ หรือสถานที่ที่ประชาชนนักท่องท่องเที่ยวจะรวมตัวจำนวนมาก เพื่อป้องกันเหตุคดีทะวิวาท คดีชีวิต ร่างกาย เพศและทรัพย์สิน ในส่วนของตำรวจน้ำให้จัดเรือพร้อมเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราตามบริเวณลำน้ำ เพื่อป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทางน้ำ รวมถึงประชาสัมพันธ์ไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวลงไปบริเวณท่าเทียบเรือ หรือโป๊ะ เกินจำนวนที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

2) มาตรการจราจรจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรในการเดินทางเข้าออกพื้นที่จัดงาน และทำแผนที่เส้นทางหลัก ทางเลี่ยงให้ประชาชนทราบก่อนการจัดงาน

3) มาตรการปราบปรามให้กวดขันจับกุมผู้เล่นดอกไม้เพลิง พลุ และประทัด ในลักษณะก่อความเดือดร้อนรำคาญ น่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายประชาชน กรณีเป็นผู้กระทำผิดเป็นเด็ก ให้นำ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เพื่อให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบ รวมทั้งร่วมกับฝ่ายปกครองกวดขันควบคุมผู้ผลิตจำหน่ายดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด หากพบว่าลักลอบทำผิดกฎหมายให้จับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด


4) มาตรการรักษาความปลอดภัย ให้มีการหาข่าวป้องกันข้อมูลของกลุ่มมิจฉาชีพที่จะเข้ามาฉกฉวยโอกาสก่อเหตุ แก็งต้มตุ๋นมิจฉาชีพ อาชญากรรมความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ คดีอนาจาร รวมทั้งออกแผนตรวจในการดูแลความเรียบร้อยของพื้นที่จัดงาน ในส่วนของสถานที่จัดขนาดใหญ่ให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.สน.) เพื่อควบคุมดูแลภาพรวมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

5) มาตรการประชาสัมพันธ์ ให้ทุกหน่วยทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ สถานบริการ ในการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะการเล่นพลุ ดอกไม้เพลิง การปล่อยโคมลอย บนท้องฟ้าฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่27/2559 รวมทั้งการขอความร่วมมือให้ช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งเหตุต่างๆ

ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับลงควบคุมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการอำนวยความสะดวกและดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทง

ผบ.ตร.กล่าวเพิ่มเติมว่า “ได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว ด้วยความสุภาพและเหมาะสม ตามหลักยุทธวิธี ในช่วงเทศกาลลอยกระทง

ด้านนายภูริพัฒน์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวเสริมว่า กรมฯ จัดทําแผนการปฏิบัติมาตรการเพื่อความปลอดภัยในวันลอยกระทงเพิ่มอีก 3 ฉบับ คือ กําหนดให้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นพื้นที่ควบคุมการเดินเรือในวันลอยกระทง ห้ามเรือเดินทะเล เรือที่ลากจูงเรือลําเลียงสินค้า และเรือบรรทุกสินค้าอันตราย เดินผ่านเขตควบคุมกํารเดินเรือ, เรื่อง มาตรการเพื่อความปลอดภัยในวันลอยกระทง และเตือนให้ใช้ความระมัดระวังในกํารเดินเรือและใช้เรือในวันลอยกระทง

ด้านนายวัชรพงศ์ วันนู ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางพลัด กล่าวว่า จัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ ดูแลการจัดงานบริเวณใต้สะพานพระราม 8 รวมทั้งสิ้นจำนวน 290 นาย และนอกจากนี้ยังจัดกำลังดูแลความปลอดภัยบริเวณโต๊ะต่างๆ อีกกว่า 40 นาย ทั้งนี้ เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณโป๊ะต่างๆ ในพื้นที่ และเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนด้วย

ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ขอความร่วมมือประชาชนเล่นลอยกระทงแบบสร้างสรรค์ สืบสานประเพณีไทย สร้างวัฒนธรรมที่ดีของคนไทยสู่สายตานักท่องเที่ยว เตือนการเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด โคมลอย หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ จะมีความผิดตามคำสั่ง หน.คสช. ที่ 27/59 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องชดใช้ค่าเสียหายในทางแพ่งอีกด้วย รวมทั้งการยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง ในขณะขับขี่ หรือโดยสาร ที่นำมาซึ่งความสูญเสียทุกปี ผู้กระทำต้องรับโทษทางอาญา

ส่วนผู้ปกครอง ควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดและควรสอนบุตรหลานว่าดอกไม้ไฟ พลุ และประทัดไม่ใช่ของเล่น เป็นวัตถุอันตรายสำหรับเด็กและ ไม่ควรให้เด็กอยู่ใกล้กับบริเวณที่มีการจุดประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุ การระมัดระวังเรื่องการพลัดหายของเด็กตามสถานที่จัดงาน รวมทั้งการถูกล่อลวงทางเพศ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นเหตุต้องสงสัย แจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อที่หมายเลข 1599 หรือ 191 ตลอด 24 ชม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง