ขยายผลจับแก๊งชาวจีนโยงผับจินหลิง คาดเป็นตัวการใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์

กรุงเทพฯ 3 พ.ย.- ตำรวจขยายผลตรวจค้นจับกุมแก๊งชาวจีน เชื่อมโยงสถานบริการจินหลิง คาดเป็นตัวการใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมอายัดเงินสดและทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้านบาท


พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับตำรวจกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ แถลงปฏิบัติการขยายผลจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเชื่อมโยงมาจากการจับกุมสถานบริการจินหลิง สามารถยึดทรัพย์สิน อาทิ รถหรู เงินสด และกระเป๋าแบรนด์เนม รวมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท

การขยายผลครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ตำรวจนครบาลเข้าตรวจค้นสถานบริการจินหลิง ย่านยานนาวา กรุงเทพฯ พบกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีน 237 คน และตรวจยึดรถยนต์หรูกว่า 30 คัน โดยหนึ่งในรถยนต์หรูที่ตำรวจยึดไว้มีหญิงชาวจีนเป็นผู้ขับ และมีชายชาวจีนเป็นเจ้าของรถยนต์ ซึ่งชายคนดังกล่าวคือกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ถือหนังสือเดินทางกัมพูชา และยังมีหนังสือเดินทางของประเทศต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสวมสิทธิเป็นคนไทยมีบัตรประจำตัวประชาชน เงินที่ได้จากการหลอกลวงก็ถูกนำไปลงทุนธุรกิจต่างๆ ซื้อบ้าน-คอนโดฯ หรู รถยนต์หรู และทรัพย์สินมีค่า มีการจ้างบอดี้การ์ดคุ้มกันตลอดเวลา ตำรวจจึงเข้าปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นที่พักอาศัยและใช้ในการกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลดังกล่าว 3 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร


2 จุดแรก คือ บ้านพัก 2 หลัก ในเขตประเวศ พบชายชาวจีนรวม 4 คน หญิงชาวจีน 2 คน และคนไทย 5 คน ทำหน้าที่เป็นคนขับรถและแม่บ้าน พร้อมตรวจยึดรถยนต์หรู 5 คัน และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 1 คัน สุราต่างประเทศ 58 ขวด โทรศัพท์มือถือ 13 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 3 เครื่อง นาฬิกาหรูและเงินสดอีกรวม 14.5 ล้านบาท

ส่วนจุดที่ 3 เป็นคอนโดฯ หรูย่านสุขุมวิท ซึ่งเป็นบ้านของนายหลิน เหยียน (LIN YIAN) พบชายชาวจีน 2 คน หญิงชาวจีน 2 คน ตรวจยึดเงินสดอีก 28 ล้านบาท กระเป๋าแบรนด์เนมหรู 8 ใบ บุหรี่ซิการ์ต่างประเทศ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า นายหลิน เหยียน ผู้ต้องหาหลักในครั้งนี้ ไม่สามารถพูดไทยได้เลย ทั้งที่มีบัตรประชาชนไทย เป็นที่ผิดสังเกต จึงนำบัตรประชาชนที่นายหลินเหยียนครอบครองไปตรวจสอบกับทะเบียนราษฎร ปรากฏว่าใบหน้าไม่ตรงกับผู้ต้องหา เชื่อว่าเป็นการปลอมบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งตำรวจสืบสวนจนพบตัวเข้าของบัตรตัวจริง ทราบว่าเป็นชาวไทยที่ยังมีชีวิตอยู่และทำอาชีพเก็บข้าวโพดอยู่ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โดยเจ้าตัวไม่ทราบเลยว่าถูกปลอมบัตรประชาชน และได้มีการวิดีโอคอลยืนยันตัวเจ้าของบัตรในการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย


นอกจากนี้ จากการดูบันทึกการเข้าออกประเทศจากพาสปอร์ตของนายหลิน ที่ยึดไว้ พบว่ามีการเดินทางเข้าออกไทย-กัมพูชา 25 ครั้ง และเข้า-ออกมาเลเซียอีก 12 ครั้ง และยังพบความเชื่อมโยงกับกลุ่ม “คิงส์โรมัน” จึงเชื่อว่านายหลิน เป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สร้างเซิร์ฟเวอร์หลอกลวงในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ใช้ไทยเป็นที่พักอาศัย

เบื้องต้นตำรวจจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแต่ละคนที่จับกุมได้ตามลักษณะความผิด และจะตรวจสอบคดีอาชญากรรมออนไลน์ที่มีการแจ้งความไว้ในระบบทั้งหมด ว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายนี้หรือไม่ต่อไป

ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ระบุว่ามี 5 แก๊งจีนธุรกิจสีเทาที่มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่ากำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวน ทั้งนี้ยืนยันว่าสามารถจับกุมได้แล้ว 2 ใน 5 กลุ่ม พร้อมระบุว่าในทางสืบสวนตอนนี้ยังไม่พบนักการเมืองระดับอดีตรัฐมนตรีหรือผู้มีอิทธิพบทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

ส่วนตัวการใหญ่อักษรย่อ ต. กับ ห.ที่นายชูวิทย์ กล่าวอ้างว่ามีความสนิทชิดเชื้อกับนักการเมืองและตำรวจระดับสูง เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงแต่อย่างใด ซึ่งต้องใช้เวลาสืบสวนเส้นทางการเงินและความสัมพันธ์สักระยะ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง