รัฐสภา 2 พ.ย.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า วาระ 2 แล้ว “ส.ส.เพื่อไทย” ประเมินรัฐบาลส่งสัญญาณคว่ำ จับตา ส.ส.ข้างมากให้แก้คำปรารภ-งดออกเสียงแก้ไขมาตรา 3 ห้ามกีดกันการแข่งขันจำนวนมาก
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่…) พ.ศ…. หรือ ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับของพรรคก้าวไกล ซึ่งกรรมาธิการวิสามัญ ที่มีนายอนุชา นาคาศัย เป็นประธานกรรมาธิการฯพิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระสอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวมีทั้งหมด 7 มาตรา โดย กมธ.แก้ไข 3 มาตรา เพิ่มขึ้นใหม่ 2 มาตรา นอกจากนี้ กมธ.ยังได้แก้ไขคำปรารภ ถึงเหตุผลของการแก้ไขกฎหมาย ที่กมธ. แก้ไขให้เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การประกอบอาชีพผลิตสุรา จากเดิมที่กำหนดเพื่อคุ้มครองบุคคลให้มีเสรีภาพในการประกอบอาชีพผลิตสุรา เกิดการพัฒนาทักษะการผลิต องค์ความรู้และสร้างนวัตกรรมสินค้าให้เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจ โดยผลการลงมติ ปรากฎว่า เสียงข้างมาก 145 เสียง ไม่เห็นด้วยที่กรรมาธิากรแก้ไข ต่อ 109 เสียง และมีผู้งดออกเสียง 19 เสียง
จากนั้น ที่ประชุม ได้เข้าสู่การพิจารณารายมาตรา โดยที่ประชุมได้ใช้เวลาจำนวนมากในการอภิปรายมาตรา 3 ที่แก้ไขมาตรา 153 ของกฎหมายภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ว่าด้วยเงื่อนไขขอผู้ผลิตสุราเพื่อการค้า ซึ่งเพิ่มเติมให้ต้องขออนุญาตต่ออธิบดี ในกรณีมีเครื่องกลั่นสำหรับผลิตสุราเพื่อการค้าไว้ในครอบครอง พร้อมกับกำหนดให้ออกกฎกระทรวงที่สอดคล้องกับร่างกฎหมายว่าด้วยขนาดกำลังผลิต กำลังแรงม้าเครื่องจักร ทุนจดทะเบียน โดยมีคำสำคัญที่ห้ามกฎกระทรวงกำหนดเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดการกีดกันทางการค้าหรือก่อให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม เว้นแต่บุคคลที่ไม่ใช่สัญชาติไทย
ทั้งนี้ การอภิปรายส่วนใหญ่ สมาชิกแสดงความเห็นต่อร่างมาตรา 3 เปรียบเทียบกับกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ซึ่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2565 โดยสนับสนุนการแก้ไขของกรรมาธิการฯ แต่ไม่เห็นด้วยกับกฎกระทรวงดังกล่าว เพราะยังมีเนื้อหาที่กีดกันการแข่งขันการผลิตสุราที่เสรีเป็นธรรม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลเร่งออกกฎกระทรวงดังกล่าวเพื่อให้เป็นข้ออ้างของการคว่ำร่างกฎหมายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล
โดยนายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะทำให้ร่างกฎหมายฉบับดังกกล่าวตก เพราะเป็นร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ ตนสนับสนุนให้การผลิตสุราชุมชน เพื่อยกระดับราคาข้าว ปัจจุบันข้าวเปลือกกิโลกรัมละ 7 บาท หากให้ประชาชนทำสุราของตนเอง จะเพิ่มราคาข้าวเปลือกเป็นกิโลกรัมละ 20 บาท หากร่างกฎหมายนี้ตกตนเสียดาย และกรรมาธิการเสียเวลาทำกฎหมายอย่างยิ่ง
หลังจากที่ประชุมได้อภิปรายมาตราดังกล่าวนานเกือบ 3 ชั่วโมง ก็ได้ลงมติ โดยผลการลงมติพบว่า เสียงข้างมาก 178 เสียง เห็นด้วย และมีไม่เห็นด้วย 4 เสียง มีผู้งดออกเสียง 175 เสียง
จากนั้นได้เข้าสู่การพิจารณามาตราที่กรรมาธิการเพิ่มขึ้นใหม่ว่าด้วยการกำหนดให้ผู้จะผลิตสุราไม่ใช่เพื่อการค้า ให้จดแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องกลั่น ชนิดสุรา ขั้นตอนการผลิตและปริมาณ และแก้ไขบทลงโทษหากฝ่าฝืน เป็นโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่ามติของที่ประชุมเห็นด้วยกับกมธ. แต่พบว่า มีเสียงที่งดออกเสียงเป็นจำนวนมาก โดย มาตรา 3/1 มติที่ประชุมเห็นด้วย 106 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ขณะที่มาตรา 3/2 มติที่ประชุมเห็นด้วย 164 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียงและงดออกเสียง 175 เสียง.-สำนักข่าวไทย.