สภาฯ ถกญัตติด่วน “คดีตากใบ” ก่อนหมดอายุความ

รัฐสภา 25 ต.ค.- สภาฯ ถกญัตติด่วน คดีตากใบ ก่อนหมดอายุความเที่ยงคืนวันนี้ ด้าน “กมลศักดิ์” ขออย่าเบี่ยงประเด็น อย่ามองคนฟ้องเป็นโจรใต้ หวั่นเป็นเงื่อนไขสร้างขัดแย้ง พร้อมแนะแก้ กม. ขณะเพื่อไทยโดดขวางป้อง “อุ๊งอิ๊ง” บอกตอนนั้นเพิ่ง 10 กว่าขวบ จะทำอย่างไร แต่สุดท้ายยอมถอน เพื่อลบรอยเลือดและคราบน้ำตา วอนอภิปรายได้แต่อย่าเติมเชื้อไฟ ขณะที่ “ทวี” ยันรัฐไม่เคยช่วยผู้ที่ถูกออกหมายจับ หนุนตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบและหาทางออก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม โดยนายรอมฎอน ปัญจอ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาผลกระทบกรณีการขาดอายุความคดีตากใบและข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการฟื้นฟูความชอบธรรมของรัฐและการแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้

ขณะที่นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.พรรคประชาชาติ เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาขอให้สภาผู้แทนราษฎรร่วมกันพิจารณาหาทางออกกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีสลายการชุมนุมคดีตากใบที่จะขาดอายุความในวันนี้เวลาเที่ยงคืน


ด้านนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติไม่เห็นด้วย ที่จะนำคดีตากใบมาพิจารณาเป็นญัตติด่วน โดยมีสส.พรรคเพื่อไทยยกมือรับรอง

ดังนั้น เมื่อมีความเห็นต่างประธานในที่ประชุม จึงเปิดโอกาสให้มีการอภิปราย แสดงความคิดเห็นก่อนให้มีการลงมติว่าที่ประชุมจะเห็นด้วยให้เลื่อนญัตติคดีตากใบขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือไม่

จากนั้น นายรอมฎอน อภิปรายถึงเหตุผลในการเสนอญัตติ ว่า เหตุการณ์ต่างๆ ในภาคใต้ รวมคดีตากใบมีความรุนแรงที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 7,000 คน เป็นปมสำคัญและจุดเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและประชาชน ดังนั้นต้องสะสางเรื่องดังกล่าวอย่างมีวุฒิภาวะเพื่อหาข้อยุติ โดยหาทางออกทางการเมือง พร้อมย้ำว่าขณะนี้กระบวนการยุติธรรมถูกท้าทายและอยู่ในภาวะตีบตัน ทำให้เกิดคำถามว่า ประเทศกำลังปกครอง ด้วยจริยธรรมหรือไม่ และความยุติธรรมจะเกิดขึ้นหรือไม่


ขณะนี้ได้เริ่มเกิดความรุนแรงและคาดว่าจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตจนกลายเป็นปมใหม่ ต่อกระบวนการสันติภาพ เชื่อว่า ความไว้วางใจ ต่ออำนาจรัฐกำลังถดถอย เพราะไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนจริงหรือไม่ และในสภาเป็นหน้าที่ทางการเมือง ที่ทำเรื่องยากและท้าทาย ในฐานะตัวแทนปวงชนชาวไทย ต้องนำปัญหา ทางการเมืองระหว่างรัฐกับประชาชนที่ไม่ลงรอยกัน โดยมีพื้นที่สภารองรับความแตกต่างหลากหลายทางความคิด โดยเฉพาะการรับฟังความเห็นที่แตกต่าง เช่นเดียวกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎร เปิดโอกาส ให้สมาชิกได้อภิปรายหาทางออกปัญหาใหญ่

“เรื่องนี้เป็นปัญหาทางการเมืองแต่ไม่ใช่การเมืองระหว่างพรรคการเมืองแต่เป็นการเมืองระหว่างรัฐกับประชาชน และอยู่ภายใต้ความสัมพันธ์ที่เปราะบาง แทนที่จะใช้เสียงระเบิดเสียงปืนมาผูกขาดความจริง ควรจะใช้เวทีนี้ในการหาทางออก” นายรอมฎอนกล่าว

ขณะที่ นายกมลศักดิ์ อภิปรายถึงเหตุผลในการเสนอญัตติ ว่า สถานการณ์ขณะนี้มีความน่าเป็นห่วง คดีตากใบไม่อยากให้เป็นเรื่องของพรรคประชาชาติเพียงพรรคเดียวแต่เป็นหน้าที่ของทุกคนที่แสดงความเห็นถึงฝ่ายบริหารในฐานะที่เราอยู่ฝ่ายนิติบัญญัติ ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อสะท้อนไปสู่การแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ปัญหาชายแดนภาคใต้เราพูดกันมานานแล้วเหตุการณ์ตากใบเป็นเรื่องหนึ่งนำไปสู่เงื่อนไขใหม่ถ้าหากเราปล่อยโดยที่ไม่ได้ดำเนินการหรือทำให้เรื่องนี้ผ่านไปเลยโดยไม่ใส่ใจ คดีตากใบตอนนี้เราได้บทเรียนอะไรบ้าง ตอนนี้มีการเบี่ยงเบนหลายประเด็น ที่ว่าทำไมเพิ่งมาฟ้องตอนนี้ แม้จะได้รับเงินเยียวยาแล้ว แต่คดีอาญายังไม่ระงับ ต้องเข้าใจกว่าประชาชนจะรวบรวมความกล้าออกมาฟ้องร้องรัฐก็เหลือ เวลาอีกแค่ 1 ปีก่อนคดีจะหมดอายุความ ขออย่ามองพวกเขาเป็นโจร เพราะจะนำไปสู่ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เราจึงติดตามและอยากให้ฝ่ายบริหารเอาจริงเอาจังติดตามเอาตัวผู้กระทำความผิดลงโทษให้ได้ใน จำเลย 7 คนกับผู้ต้องหาอีก 7 ราย นี่คือครั้งแรกที่อดีตแม่ทัพ อดีตผู้บัญชาการภาค 9 และผู้บริหารระดับสูงถูกออกหมายจับในกรณีที่ทำให้พี่น้องในพื้นที่เสียชีวิต ดังนั้น อยากให้สภาแห่งนี้สะท้อนให้ผู้ปฏิบัติงานปรับเปลี่ยนทัศนคติใหม่

นายกมลศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ทราบว่ามีคนที่ยังทำงานอยู่ภายใต้กระทรวงกลาโหมและภายใต้กระทรวงมหาดไทยแต่ผู้บังคับบัญชา ยังไม่สามารถนำตัวมาลงโทษได้ และยังมีเวลา ถึงเที่ยงคืนของวันนี้พี่จะมอบตัวเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่ให้ดีขึ้น

“ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ออกมาขอโทษ แต่ขอให้แสดงความจริงใจด้วยการช่วยแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 95 ว่าด้วยอายุความ แสดงให้เห็นถึงความจริงใจมากขึ้น เพราะคำขอโทษก่อนหน้านี้พี่น้อง 3 จังหวัดก็เคยได้ยินได้ฟังมา 2 ครั้งแล้ว การแสดงความจริงใจประกอบคำขอโทษช่วยเสนอแก้กฎหมายด้วย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะคดีตากใบ รวมถึงคดีการชุมนุม อื่นๆด้วย เพื่อให้ชาวบ้านที่นั่นอย่างน้อยที่สุดมีความรู้สึกว่าลุกขึ้นสู้แม้ไปไม่สุดทาง แต่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย” นายกมลศักดิ์กล่าว

ด้านนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นแสดงความเห็นว่า ตนลุกขึ้นมา ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เห็นด้วยในทุกประการที่นายรอมฎอนและนายกมลศักดิ์พูดมา ตนเสียใจกับผู้สูญเสีย ไม่ว่าจะมีการเยียวยาหรือไม่ เรื่องนี้ผ่านมา 20 ปี ก็เป็นมรดกความคิด อีก 50 ปี เรื่องนี้ก็ไม่มีวันลืมได้เลย ตนคิดว่าพี่น้องชาวไทยก็มีความคิดอย่างนั้นเช่นกัน ไม่มีอะไรที่จะเห็นแย้งในการที่จะให้กระบวนการยุติธรรม

นายประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวมีความสงสัยเหมือนกันว่าถ้าตนเป็นผู้สูญเสีย จะฟ้องตั้งแต่วันแรก แต่ทำไมมาฟ้องในปีสุดท้าย เหลืออีกไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน ตนเสียดาย และอยากให้ตำรวจจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี หรืออยากให้มีอะไรดลใจให้ผู้ต้องหามามอบตัวด้วยซ้ำไป ซึ่งถือเป็นความคิดไม่ได้แตกต่างกัน

นายประยุทธ์ ตั้งคำถามว่า ในสังคมสื่อพูดถึงมาตรา 172 ในการให้รัฐบาลออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ซึ่งมีข้อจำกัดเหมือนกันว่าออกได้ในกรณีใดบ้าง การออก พ.ร.ก. มันออกไม่ได้เฉพาะเจาะจงกรณีใดกรณีหนึ่ง มันก็ไม่ได้เช่นกัน การเรียกร้องให้รัฐบาลออก พ.ร.ก. ตนก็คิดได้ แต่ต้องคิดในใจคิดออกมาข้างนอกแล้วผิดหมด

“การที่จะเรียกร้องให้ท่านนายกฯ ต้องมารับผิดชอบ ท่านประธานครับ ในขณะที่เกิดเหตุ นายกฯ 10 กว่าปี ยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่ บ้านเมืองเรามีกระบวนการยุติธรรม มีขั้นมีตอน มีตำรวจ มีอัยการ มีศาล การที่บุคคลละคนจะเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมารับผิดชอบ ท่านประธานเป็นนายกฯ หรือผมเป็นนายกฯ ผมก็คิดไม่ออกว่าผมจะทำอย่างไร การแสดงความเสียใจกับการขอโทษมันก็เป็นเรื่องสง่างาม” นายประยุทธ์ กล่าว

นายประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ผ่านมา 20 ปีแล้วจะมาเป็นญัตติด่วนอะไร อย่างเรื่อง 6 ตุลา 19 ตนโดนขังลืม ตนเอาเรื่องนี้เข้าเป็นญัตติด่วนได้หรือไม่ ผมไม่ขัดข้อง หากวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านตกลงกันได้ ตนก็พร้อมถอน พร้อมขอให้วิป 2 ฝ่าย ไปคุยกันให้เรียบร้อยว่าจะอภิปรายกี่คน

จากนั้น นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาคนที่สอง กล่าวว่า เท่าที่เจรจากับพรรคการเมืองส่วนมากเห็นไปนี้จะทางเดียวกัน ทุกคนเป็นห่วงเป็นใหญ่ และเข้าใจดีถึงสถานการณ์ก็ เลยมีการพูดคุยว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่รับญัตตินี้ แต่จำกัดคน ก่อนที่ทุกฝ่ายจะตกลงกันได้

นายประยุทธ์ จึงลุกกล่าวว่า ถือเป็นการลบรอยเลื่อนและคราบน้ำตา ขออย่าเติมเชื้อไฟเข้ามาในกองไฟ ตนขอร้อง ตนขอถอน ก่อนที่จะเปิดให้ สส. อภิปรายต่อไป

ทวี ชี้ กระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องสำคัญ ควรเปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาและเยียวยาทั้งจิตใจและจิตวิญญาณ ขณะที่นายกฯ ได้ขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะรัฐบาลแล้ว

ด้านพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และสส.พรรคประชาชาติ อภิปราย ว่าความยุติธรรมเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการรวมตัวกันเป็นประเทศชาติและสังคม แม้จะมีความเป็นนามธรรมสูงแต่สังคมใดขาดความยุติธรรมก็จะเกิดความ ความแตกแยก ประชาชนหรือผู้มีอำนาจก็จะอยู่ไม่ได้ เหตุการณ์ตากใบและความไม่สงบในจังหวัดภาคใต้ เป็นพลวัตในการแก้ไขปัญหา 20 ปีผ่านไป ทุกภาคส่วนโหยหาเพื่อร่วมหาทางออกจากไฟใต้ เชื่อว่าวันนี้ พบทางออกแล้วแต่ยังไม่ได้ข้อยุติ การจะได้ข้อยุติต้องส่งเสริมให้ ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา กรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึกของคนจังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น แต่เป็นความรู้สึกของคนทั้งประเทศ และเป็นความรู้สึกของรัฐบาล เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีได้แสดงคำขอโทษต่อประชาชนแล้ว และตนเองในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยืนยันว่า ไม่เคยพูดว่าช่วยเหลือผู้ที่ถูกออกจับเลย มีแต่จะทำอย่างไรให้ตำรวจและหน่วยงานด้านความมั่นคงติดตามจับกุมให้ผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ได้ทันเวลาตามหมายจับ เหลือเวลาอีกไม่มากก็ขอให้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะอภิปรายก็ได้สอบถามความคืบหน้าก็ได้รับรายงานว่ากำลังเร่งดำเนินการ ติดตามผู้ต้องหาอยู่

ดังนั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ถือว่าเป็นตัวแทนจากประชาชน ดังนั้นการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาผลกระทบ และแนวทางการแก้ไขปัญหาจึงน่าจะเป็นอีกแนวทางหนึ่ง

ตนเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้ามาทำหน้าที่2ปี 7เดือน ได้รับข้อมูลมาจำนวนมาก จึงมีแนวคิดหาแนวทางใหม่เพื่อแก้ไขปัญหา ด้วยการให้ความเป็นธรรมกับประชาชนด้วยการตั้งคณะกรรมการเยียวยา ทางจิตใจและจิตวิญญาณ จากเหตุการณ์ต่างๆ จำนวน8ชุด มีทั้งเหตุการณ์ตากใบ เหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกพื้นที่เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการ.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำไทยเลือกสันติวิธี แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ ลั่น “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ย้ำไทยเลือกสันติวิธี ปมชายแดนไทย-กัมพูชา แต่หากปะทะเราพร้อม ยอมรับเป็นเพื่อนที่ดี แต่จะขอบ้านเราไม่ได้ หลังถูกจี้ถาม “ตระกูลชิน” เกี่ยวดอง “ฮุน เซน” แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ บอกปรึกษาทหารแล้ว งง สื่อฯ ทำไมวันนี้ ดุจัง ปลอบ ไม่เป็นไรนะ ไม่ได้ลงพื้นที่ดูหน้างาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ชายแดน ว่า ได้เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง สิ่งสำคัญมาก ๆ คนไทยต้องรักกันสามัคคีกัน ไม่ใช่การเมืองในประเทศที่จะต้องมีการแบ่งฝ่ายกัน ทุกๆ ฝ่ายต้องช่วยกันรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศเราต้องสามัคคีกัน ต้องใช้ความเป็นหนึ่ง รักกันของคนในชาติ รัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ฝ่ายค้าน รัฐบาลก็คือประเทศไทย และการแสดงความเห็นและการปล่อยข่าวปลอมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น นายกรัฐมนตรี กล่าววว่า ถ้าถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น รัฐบาลทำเต็มที่และรักษาอธิปไตยของเราเป็นสิ่งที่จำเป็น รัฐบาลและทหาร คุยกันตลอดว่า จะไปทางไหนอย่างไรเราต้องมั่นใจว่าเราเป็นประเทศไทยเพลงชาติไทย เขาเรียกว่า […]

‘อี แจ-มยอง’ คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.เกาหลีใต้

โซล 4 มิ.ย. – อี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ พร้อมประกาศชัยชนะต่อผู้สนับสนุน ขณะที่ คิม มุน-ซู คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชน ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว นายอี ได้ชัยชนะการเลือกตั้งหลังจากการนับคะแนนผ่านไปร้อยละ 94.4 และเมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน นายอี ได้คะแนนเสียงไปแล้วร้อยละ 48.8 และนายคิม คู่แข่งคนสำคัญจากพรรคพลังประชาชน แนวอนุรักษ์นิยม ได้ร้อยละ 42 แม้ว่าคะแนนที่ยังไม่ได้นับ จะตกเป็นของนายคิมแต่ก็ยังตามนายอีไม่ทัน ซึ่งทำให้นายอี ยืนยันชัยชนะของเขาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับตัวเลขผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเบื้องต้นอยู่ที่ร้อยละ 79.4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2540 ในจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 44.4 ล้านคน มีผู้มาใช้สิทธิราว 35.24 ล้านคนตามหน่วยเลือกตั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77.1 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนในปี 2565 นายอีกล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมหน้าที่ของประธานาธิบดีในการสร้างความเป็นเอกภาพของผู้คนในประเทศ และว่าเขาจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือได้โดยผ่านการเจรจาและพูดคุยกัน ด้าน นายคิม […]

รัฐบาลออกแถลงการณ์ปมไทย-กัมพูชา ยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- รัฐบาล ออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยัน ตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยเต็มที่ ยึดหลักแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และสวัสดิภาพของประชาชน ย้ำ ชายแดน มีความสงบเรียบร้อย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมทุกภาคส่วนของ รัฐบาลภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวดังต่อไปนี้ แถลงการณ์รัฐบาล “กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา” รัฐบาลขอยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและคุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่โดยยึดหลักการในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม โดยจุดเริ่มต้นของสถานการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่กองกำลังฝ่ายไทยลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ฝ่ายไทยซึ่งเป็นแนวที่ถือปฏิบัติเสมอมา แต่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีสถานการณ์จากการปะทะดังกล่าวทำให้กองกำลังไทยจำเป็นต้องป้องกันตัว และปกป้องพื้นที่อธิปไตยของไทย เป็นการดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากเกิดเหตุรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับรวมถึงนายกรัฐมนตรี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย