สภาฯ ถกญัตติด่วน “คดีตากใบ” ก่อนหมดอายุความ

รัฐสภา 25 ต.ค.- สภาฯ ถกญัตติด่วน คดีตากใบ ก่อนหมดอายุความเที่ยงคืนวันนี้ ด้าน “กมลศักดิ์” ขออย่าเบี่ยงประเด็น อย่ามองคนฟ้องเป็นโจรใต้ หวั่นเป็นเงื่อนไขสร้างขัดแย้ง พร้อมแนะแก้ กม. ขณะเพื่อไทยโดดขวางป้อง “อุ๊งอิ๊ง” บอกตอนนั้นเพิ่ง 10 กว่าขวบ จะทำอย่างไร แต่สุดท้ายยอมถอน เพื่อลบรอยเลือดและคราบน้ำตา วอนอภิปรายได้แต่อย่าเติมเชื้อไฟ ขณะที่ “ทวี” ยันรัฐไม่เคยช่วยผู้ที่ถูกออกหมายจับ หนุนตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบและหาทางออก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม โดยนายรอมฎอน ปัญจอ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาผลกระทบกรณีการขาดอายุความคดีตากใบและข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการฟื้นฟูความชอบธรรมของรัฐและการแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้

ขณะที่นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.พรรคประชาชาติ เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาขอให้สภาผู้แทนราษฎรร่วมกันพิจารณาหาทางออกกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีสลายการชุมนุมคดีตากใบที่จะขาดอายุความในวันนี้เวลาเที่ยงคืน


ด้านนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติไม่เห็นด้วย ที่จะนำคดีตากใบมาพิจารณาเป็นญัตติด่วน โดยมีสส.พรรคเพื่อไทยยกมือรับรอง

ดังนั้น เมื่อมีความเห็นต่างประธานในที่ประชุม จึงเปิดโอกาสให้มีการอภิปราย แสดงความคิดเห็นก่อนให้มีการลงมติว่าที่ประชุมจะเห็นด้วยให้เลื่อนญัตติคดีตากใบขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือไม่

จากนั้น นายรอมฎอน อภิปรายถึงเหตุผลในการเสนอญัตติ ว่า เหตุการณ์ต่างๆ ในภาคใต้ รวมคดีตากใบมีความรุนแรงที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 7,000 คน เป็นปมสำคัญและจุดเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและประชาชน ดังนั้นต้องสะสางเรื่องดังกล่าวอย่างมีวุฒิภาวะเพื่อหาข้อยุติ โดยหาทางออกทางการเมือง พร้อมย้ำว่าขณะนี้กระบวนการยุติธรรมถูกท้าทายและอยู่ในภาวะตีบตัน ทำให้เกิดคำถามว่า ประเทศกำลังปกครอง ด้วยจริยธรรมหรือไม่ และความยุติธรรมจะเกิดขึ้นหรือไม่


ขณะนี้ได้เริ่มเกิดความรุนแรงและคาดว่าจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตจนกลายเป็นปมใหม่ ต่อกระบวนการสันติภาพ เชื่อว่า ความไว้วางใจ ต่ออำนาจรัฐกำลังถดถอย เพราะไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนจริงหรือไม่ และในสภาเป็นหน้าที่ทางการเมือง ที่ทำเรื่องยากและท้าทาย ในฐานะตัวแทนปวงชนชาวไทย ต้องนำปัญหา ทางการเมืองระหว่างรัฐกับประชาชนที่ไม่ลงรอยกัน โดยมีพื้นที่สภารองรับความแตกต่างหลากหลายทางความคิด โดยเฉพาะการรับฟังความเห็นที่แตกต่าง เช่นเดียวกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎร เปิดโอกาส ให้สมาชิกได้อภิปรายหาทางออกปัญหาใหญ่

“เรื่องนี้เป็นปัญหาทางการเมืองแต่ไม่ใช่การเมืองระหว่างพรรคการเมืองแต่เป็นการเมืองระหว่างรัฐกับประชาชน และอยู่ภายใต้ความสัมพันธ์ที่เปราะบาง แทนที่จะใช้เสียงระเบิดเสียงปืนมาผูกขาดความจริง ควรจะใช้เวทีนี้ในการหาทางออก” นายรอมฎอนกล่าว

ขณะที่ นายกมลศักดิ์ อภิปรายถึงเหตุผลในการเสนอญัตติ ว่า สถานการณ์ขณะนี้มีความน่าเป็นห่วง คดีตากใบไม่อยากให้เป็นเรื่องของพรรคประชาชาติเพียงพรรคเดียวแต่เป็นหน้าที่ของทุกคนที่แสดงความเห็นถึงฝ่ายบริหารในฐานะที่เราอยู่ฝ่ายนิติบัญญัติ ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อสะท้อนไปสู่การแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ปัญหาชายแดนภาคใต้เราพูดกันมานานแล้วเหตุการณ์ตากใบเป็นเรื่องหนึ่งนำไปสู่เงื่อนไขใหม่ถ้าหากเราปล่อยโดยที่ไม่ได้ดำเนินการหรือทำให้เรื่องนี้ผ่านไปเลยโดยไม่ใส่ใจ คดีตากใบตอนนี้เราได้บทเรียนอะไรบ้าง ตอนนี้มีการเบี่ยงเบนหลายประเด็น ที่ว่าทำไมเพิ่งมาฟ้องตอนนี้ แม้จะได้รับเงินเยียวยาแล้ว แต่คดีอาญายังไม่ระงับ ต้องเข้าใจกว่าประชาชนจะรวบรวมความกล้าออกมาฟ้องร้องรัฐก็เหลือ เวลาอีกแค่ 1 ปีก่อนคดีจะหมดอายุความ ขออย่ามองพวกเขาเป็นโจร เพราะจะนำไปสู่ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เราจึงติดตามและอยากให้ฝ่ายบริหารเอาจริงเอาจังติดตามเอาตัวผู้กระทำความผิดลงโทษให้ได้ใน จำเลย 7 คนกับผู้ต้องหาอีก 7 ราย นี่คือครั้งแรกที่อดีตแม่ทัพ อดีตผู้บัญชาการภาค 9 และผู้บริหารระดับสูงถูกออกหมายจับในกรณีที่ทำให้พี่น้องในพื้นที่เสียชีวิต ดังนั้น อยากให้สภาแห่งนี้สะท้อนให้ผู้ปฏิบัติงานปรับเปลี่ยนทัศนคติใหม่

นายกมลศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ทราบว่ามีคนที่ยังทำงานอยู่ภายใต้กระทรวงกลาโหมและภายใต้กระทรวงมหาดไทยแต่ผู้บังคับบัญชา ยังไม่สามารถนำตัวมาลงโทษได้ และยังมีเวลา ถึงเที่ยงคืนของวันนี้พี่จะมอบตัวเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่ให้ดีขึ้น

“ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ออกมาขอโทษ แต่ขอให้แสดงความจริงใจด้วยการช่วยแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 95 ว่าด้วยอายุความ แสดงให้เห็นถึงความจริงใจมากขึ้น เพราะคำขอโทษก่อนหน้านี้พี่น้อง 3 จังหวัดก็เคยได้ยินได้ฟังมา 2 ครั้งแล้ว การแสดงความจริงใจประกอบคำขอโทษช่วยเสนอแก้กฎหมายด้วย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะคดีตากใบ รวมถึงคดีการชุมนุม อื่นๆด้วย เพื่อให้ชาวบ้านที่นั่นอย่างน้อยที่สุดมีความรู้สึกว่าลุกขึ้นสู้แม้ไปไม่สุดทาง แต่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย” นายกมลศักดิ์กล่าว

ด้านนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นแสดงความเห็นว่า ตนลุกขึ้นมา ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เห็นด้วยในทุกประการที่นายรอมฎอนและนายกมลศักดิ์พูดมา ตนเสียใจกับผู้สูญเสีย ไม่ว่าจะมีการเยียวยาหรือไม่ เรื่องนี้ผ่านมา 20 ปี ก็เป็นมรดกความคิด อีก 50 ปี เรื่องนี้ก็ไม่มีวันลืมได้เลย ตนคิดว่าพี่น้องชาวไทยก็มีความคิดอย่างนั้นเช่นกัน ไม่มีอะไรที่จะเห็นแย้งในการที่จะให้กระบวนการยุติธรรม

นายประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวมีความสงสัยเหมือนกันว่าถ้าตนเป็นผู้สูญเสีย จะฟ้องตั้งแต่วันแรก แต่ทำไมมาฟ้องในปีสุดท้าย เหลืออีกไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน ตนเสียดาย และอยากให้ตำรวจจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี หรืออยากให้มีอะไรดลใจให้ผู้ต้องหามามอบตัวด้วยซ้ำไป ซึ่งถือเป็นความคิดไม่ได้แตกต่างกัน

นายประยุทธ์ ตั้งคำถามว่า ในสังคมสื่อพูดถึงมาตรา 172 ในการให้รัฐบาลออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ซึ่งมีข้อจำกัดเหมือนกันว่าออกได้ในกรณีใดบ้าง การออก พ.ร.ก. มันออกไม่ได้เฉพาะเจาะจงกรณีใดกรณีหนึ่ง มันก็ไม่ได้เช่นกัน การเรียกร้องให้รัฐบาลออก พ.ร.ก. ตนก็คิดได้ แต่ต้องคิดในใจคิดออกมาข้างนอกแล้วผิดหมด

“การที่จะเรียกร้องให้ท่านนายกฯ ต้องมารับผิดชอบ ท่านประธานครับ ในขณะที่เกิดเหตุ นายกฯ 10 กว่าปี ยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่ บ้านเมืองเรามีกระบวนการยุติธรรม มีขั้นมีตอน มีตำรวจ มีอัยการ มีศาล การที่บุคคลละคนจะเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมารับผิดชอบ ท่านประธานเป็นนายกฯ หรือผมเป็นนายกฯ ผมก็คิดไม่ออกว่าผมจะทำอย่างไร การแสดงความเสียใจกับการขอโทษมันก็เป็นเรื่องสง่างาม” นายประยุทธ์ กล่าว

นายประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ผ่านมา 20 ปีแล้วจะมาเป็นญัตติด่วนอะไร อย่างเรื่อง 6 ตุลา 19 ตนโดนขังลืม ตนเอาเรื่องนี้เข้าเป็นญัตติด่วนได้หรือไม่ ผมไม่ขัดข้อง หากวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านตกลงกันได้ ตนก็พร้อมถอน พร้อมขอให้วิป 2 ฝ่าย ไปคุยกันให้เรียบร้อยว่าจะอภิปรายกี่คน

จากนั้น นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาคนที่สอง กล่าวว่า เท่าที่เจรจากับพรรคการเมืองส่วนมากเห็นไปนี้จะทางเดียวกัน ทุกคนเป็นห่วงเป็นใหญ่ และเข้าใจดีถึงสถานการณ์ก็ เลยมีการพูดคุยว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่รับญัตตินี้ แต่จำกัดคน ก่อนที่ทุกฝ่ายจะตกลงกันได้

นายประยุทธ์ จึงลุกกล่าวว่า ถือเป็นการลบรอยเลื่อนและคราบน้ำตา ขออย่าเติมเชื้อไฟเข้ามาในกองไฟ ตนขอร้อง ตนขอถอน ก่อนที่จะเปิดให้ สส. อภิปรายต่อไป

ทวี ชี้ กระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องสำคัญ ควรเปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาและเยียวยาทั้งจิตใจและจิตวิญญาณ ขณะที่นายกฯ ได้ขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะรัฐบาลแล้ว

ด้านพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และสส.พรรคประชาชาติ อภิปราย ว่าความยุติธรรมเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการรวมตัวกันเป็นประเทศชาติและสังคม แม้จะมีความเป็นนามธรรมสูงแต่สังคมใดขาดความยุติธรรมก็จะเกิดความ ความแตกแยก ประชาชนหรือผู้มีอำนาจก็จะอยู่ไม่ได้ เหตุการณ์ตากใบและความไม่สงบในจังหวัดภาคใต้ เป็นพลวัตในการแก้ไขปัญหา 20 ปีผ่านไป ทุกภาคส่วนโหยหาเพื่อร่วมหาทางออกจากไฟใต้ เชื่อว่าวันนี้ พบทางออกแล้วแต่ยังไม่ได้ข้อยุติ การจะได้ข้อยุติต้องส่งเสริมให้ ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา กรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึกของคนจังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น แต่เป็นความรู้สึกของคนทั้งประเทศ และเป็นความรู้สึกของรัฐบาล เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีได้แสดงคำขอโทษต่อประชาชนแล้ว และตนเองในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยืนยันว่า ไม่เคยพูดว่าช่วยเหลือผู้ที่ถูกออกจับเลย มีแต่จะทำอย่างไรให้ตำรวจและหน่วยงานด้านความมั่นคงติดตามจับกุมให้ผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ได้ทันเวลาตามหมายจับ เหลือเวลาอีกไม่มากก็ขอให้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะอภิปรายก็ได้สอบถามความคืบหน้าก็ได้รับรายงานว่ากำลังเร่งดำเนินการ ติดตามผู้ต้องหาอยู่

ดังนั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ถือว่าเป็นตัวแทนจากประชาชน ดังนั้นการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาผลกระทบ และแนวทางการแก้ไขปัญหาจึงน่าจะเป็นอีกแนวทางหนึ่ง

ตนเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้ามาทำหน้าที่2ปี 7เดือน ได้รับข้อมูลมาจำนวนมาก จึงมีแนวคิดหาแนวทางใหม่เพื่อแก้ไขปัญหา ด้วยการให้ความเป็นธรรมกับประชาชนด้วยการตั้งคณะกรรมการเยียวยา ทางจิตใจและจิตวิญญาณ จากเหตุการณ์ต่างๆ จำนวน8ชุด มีทั้งเหตุการณ์ตากใบ เหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกพื้นที่เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการ.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]