รวบ 1 ใน 5 แก๊งชาวจีนตัดนิ้วเพื่อนร่วมชาติ รีดค่าไถ่ 30 ล้านบาท

ชลบุรี 1 พ.ย.- คดีชาวจีนอุ้มตัดนิ้ว เรียกค่าไถ่เพื่อนร่วมชาติ 30 ล้านบาท ล่าสุดตำรวจสืบสวนภาค 2 รวบหัวโจกของแก๊งนี้ได้แล้ว 1 คน เตรียมขยายผลหลังพบแก๊งนี้มาอยู่ไทยอย่างผิดกฎหมาย ด้วยวีซ่านักเรียน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่นักเรียน


นายต้าเต้า ชาวจีน ถูกตำรวจสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 2 บุกรวบตัว หลังร่วมกับพวกก่อเหตุอุ้มเพื่อนร่วมชาติที่เป็นชายวัย 41 ปี ไปทรมาน ตัดนิ้วก้อยซ้ายทิ้ง เพื่อเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 30 ล้านบาท ซึ่งการเค้นสอบนายต้าเต้า ยอมรับร่วมกับพวกอีก 4 คนก่อเหตุจริง ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่ลงพื้นที่ชลบุรี เพื่อติดตามคดี บอกว่า นอกจากเร่งล่าเพื่อนร่วมแก๊งของนายต้าเต้าแล้ว ยังต้องเรียกสอบ ผกก.ตม.อุดรธานี และสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแพร่ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการขอต่อวีซ่านักเรียนให้กลุ่มชาวจีนเหล่านี้ เนื่องจากมีข้อมูลว่าแก๊งนี้มาอยู่ไทยอย่างผิดกฎหมาย และมีบางส่วนอยู่แบบโอเวอร์สเตย์มากว่า 1 ปี ด้วยการขอวีซ่าอยู่ต่อในรูปแบบนักเรียน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่นักเรียน และไปขอต่อวีซ่าที่ ตม.อุดรธานี ขณะที่ผู้เสียหายไปขอต่อวีซ่าที่ ตม.แพร่ ส่วนเบาะแสอื่นเพิ่มเติมในการล่าผู้ร่วมขบวนการ และสาวไปถึงคนที่เกี่ยวข้อง จะให้ข้อมูลเพิ่มในช่วงบ่ายวันนี้

ย้อนกลับไป คดีนี้เป็นข่าวขึ้นเมื่อตำรวจได้รับแจ้งจากแฟนสาวชายชาวจีนวัย 41ปี ว่าแฟนถูกอุ้มจากสถานบันเทิงย่านวอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ไปเรียกค่าไถ่ 30 ล้าน ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ก่อนถูกซ้อมหนัก ทั้งใช้เทปปิดตา มัดขา ตัดนิ้ว มีดแทงมือ-แขน และใช้ไม้เบสบอลกระหน่ำตี แฟนสาวทราบเรื่อง เพราะแก๊งคนร้ายชาวจีนส่งคลิปการทรมานมาให้ดูว่า หากไม่ยอมจ่าย 30 ล้านบาท แลกกับอิสรภาพ แฟนจะโดนหนักกว่านี้ แต่คดีพลิก เพราะแฟนสาวเห็นคลิปนอกจากไม่ได้จ่ายเงิน ยังรีบนำไปแจ้งตำรวจ ส่วนแฟนที่ตกเป็นเหยื่อพยายามหนีตายกระโดดจากระเบียงชั้น 2 มาขอความช่วยเหลือชาวบ้าน และหนีรอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ขณะที่คนร้ายที่ไหวตัวทัน ทิ้งรถฟอร์จูนเนอร์สีดำที่เป็นของเหยื่อไว้บริเวณอ่างเก็บน้ำมาบประชัน


ทั้งนี้ เมื่อตำรวจไล่ตรวจกล้องวงจรปิดไปตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี และสอบถามพยาน ทำให้ได้เบาะแสว่าช่วงบ่าย 3 ของวันที่ 30 ตุลาคม คนร้ายได้ขับรถมาจอดใกล้ๆ สถานบันเทิง แต่เหมือนขับไม่แข็ง เพราะรถเกือบขับไปชนท้ายรถคันอื่น ทำให้มีคนเห็นหลายคน และล่าสุดตำรวจนำรถคันดังกล่าวมาตรวจหาลายนิ้วมือแฝง ส่วนกล้องหน้ารถไม่สามารถบันทึกอะไรได้ เพราะมีร่องรอยถูกคนร้ายงัดเอาไป อย่างไรก็ตาม ตำรวจมั่นใจสามารถขอหมายจับ และติดตามรวบตัวผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีได้ในเร็วๆ นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง