กรุงเทพฯ 27 เม.ย.- ประธาน ป.ป.ช. ยืนยันไม่กังวล หลัง “ธาริต” ฟ้องคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อศาลแพ่ง เรียกค่าเสียหายที่ถูกชี้มูลความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติ และอายัดทรัพย์ ระบุ เป็นกลไกปกติของการทำงาน ที่ต้องถูกตรวจสอบ
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (26 เม.ย.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นฟ้องตน และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อศาลแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหาย กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดนายธาริต ฐานร่ำรวยผิดปกติ และมีคำสั่งอายัดทรัพย์ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของนายธาริต ที่สามารถกระทำได้ ทำให้เวลานนี้ตนและคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตกเป็นจำเลย ถือเป็นกลไกปกติของการทำงาน เมื่อรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ยืนยันว่า ไม่กังวลที่ถูกนายธาริตฟ้อง เพราะเป็นการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ต้องถูกตรวจสอบเช่นกัน และต้องต่อสู้ตามแนวทางของกฎหมาย หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.กระทำความผิดเสียเอง ก็จะมีโทษ 2 เท่าของบุคคลธรรมดา และข้าราชการที่กระทำความผิดด้วย” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ตามกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หากมีการชี้มูลความผิดทางวินัยร้ายแรงไปแล้ว ก็จะส่งเรื่องไปให้ผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาลงโทษ หากผิดวินัยร้ายแรง ก็จะมีผลให้ไล่ออก อย่างกรณีนี้คือการร่ำรวยผิดปกติ ก็ส่งเรื่องให้ทางผู้บังคับบัญชาลงโทษทางวินัย ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายอยู่แล้ว โดยผู้บังคับบัญชาก็จะพิจารณาไปตามอำนาจหน้าที่
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า การพิจารณาจะขึ้นอยู่กับกฏหมายเฉพาะของแต่ละองค์กร ที่จะมีกฎหมายเฉพาะ โดยกรณีของนายธาริต จะเป็น พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 และแม้จะมีการยื่นอุทธรณ์ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโทษ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลได้
“เมื่อไม่นานมานี้ คณะรัฐมนตรีมีมติให้แก้ไขบทบัญญัติของระเบียบบริหารราชการขององค์กรต่างๆ ให้สอดคล้องกับกฎหมาย ป.ป.ช. ซึ่งหมายความว่า เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลแล้ว ก็ให้ดำเนินการตามการชี้มูล ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้อง” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว .- สำนักข่าวไทย