กรุงเทพฯ 16 ต.ค. – “ป.ป.ช.-ป.ป.ท.-ปปป.” เปิดปฏิบัติการจับกุม “ผอ.กองช่าง” เทศบาลตำบลสันผีเสื้อ จ.เชียงใหม่ กับพวก ร่วมกันเรียกรับเงินผู้ประกอบการแลกกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร
วันนี้ (16 ต.ค.) สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายวิวัฒน์ เจริญฉ่ำ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 5 และนายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ นายนิรันดร ศรีภักดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเชียงใหม่ และนายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ท. และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ได้แก่ ผู้อำนวยการกองช่าง, ผู้ช่วยนายช่างเขียนแบบ สังกัดเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ จังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่
ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมาตรา 173
สืบเนื่องจากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร แจ้งเบาะแสต่อสำนักงาน ป.ป.ท. ว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย มีพฤติการณ์ร่วมกันเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย เพื่อแลกกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร โดยร่วมกันเรียกรับเงินจากผู้เสียหายหลายครั้ง รวมจำนวนกว่า 226,000 บาท จึงได้มีการประสานการปฏิบัติงานกับสำนักงาน ป.ป.ช. และ บก.ปปป. เพื่อร่วมกันสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับและหมายค้น และร่วมปฏิบัติการจับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย และตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องอีก 3 จุด เพื่อค้นหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดี ภายหลังการจับพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2566 มาตรา 22 และมาตรา 23 และนำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปทำบันทึกจับและสอบปากคำเบื้องต้น ในชั้นนี้ผู้ต้องยังให้การปฏิเสธ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้ถูกกล่าวหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย