ตร.เมาหนัก ชักปืนรัวยิงถูกนักเที่ยวดับ 1 เจ็บ 2

ตรัง 25 ต.ค. – ตำรวจหน่วยสวาทเมืองตรังเมาหนัก ชักปืน 9 มม. รัวยิงกว่า 10 นัด ถูกนักเที่ยวเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เหตุเขม่นหน้ากันในผับ ก่อนหลบหนี ตำรวจเร่งไล่ล่าตัว


เวลา 01.15 น.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ภายในสถานบันเทิงบริเวณถนนทางเข้า บขส.ตรัง พบศพนายจิตกร อายุ 32 ปี เป็นคนสนิทนักการเมืองท้องถิ่น ถูกยิงด้วยปืน 9 มม. เข้าที่หลังศีรษะ 2 นัด สะบักหลังซ้าย 3 นัด ชายโครงขวา 1 นัด ต้นแขนขวา 3 นัด รวม 9 นัด นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต

ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นเพื่อนผู้เสียชีวิต คือนายเอกพจน์ อายุ 34 ปี ถูกยิงที่สะโพกซ้าย 1 นัด ข้อเท้าซ้าย 1 นัด และผู้บาดเจ็บไม่ทราบชื่ออีก 1 คน ถูกลูกหลง กระสุนเจาะเข้าบริเวณข้อซอกซ้าย 1 นัด เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลตรัง


ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. 11 ปลอก หัวกระสุน 1 หัว และลูกกระสุนปืนที่ยังไม่ได้ใช้งานอีก 1 นัด ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ การ์ดของร้านแย่งจากคนร้ายไว้ได้ เป็นปืนกล็อกขนาด 9 มม. 1 กระบอก ภายในแม็กกาซีนยังเหลือกระสุนอยู่อีก 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบและเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่ากลุ่มผู้เสียชีวิต 3 คน เดินทางมานั่งดื่มกินกันช่วงเที่ยงคืน โดยมีผู้ตาย นายเอกพจน์ (ผู้บาดเจ็บ) และนายวุฒิชัย อายุ 42 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ จ่าเบิร์ด ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ภ.จว.ตรัง มานั่งดื่มกินพร้อมกับเพื่อนซึ่งเป็นตำรวจรวม 2 คน โดยที่ตำรวจทั้ง 2 นาย เป็นอดีตการ์ดของทางร้าน เพิ่งลาออกจากร้านไปได้ประมาณ 1 เดือน มานั่งดื่มกินกันช่วงประมาณ 3 ทุ่ม

พนักงานเสิร์ฟ เล่าว่า ตำรวจทั้ง 2 นายมานั่งดื่มกินและเมาหนักมาก คาดว่าดื่มกินมาจากที่อื่นแล้ว ก่อนที่มือยิงจะถีบเก้าอี้กระเด็นไปโดนผู้ตาย ทำให้ผู้ตายโมโห ลุกขึ้นไปผลักมือยิงออก ก่อนผู้ตายจะเดินขึ้นมาทางบันไดชั้น 2 ทำให้มือยิงชักอาวุธปืนเดินตามประกบหลังและยิงใส่จากด้านหลังในทันที หลังจากนั้นเพื่อนของผู้ตายเดินไปช่วย ทำให้โดนยิงไปด้วย ซึ่งช่วงเกิดเหตุมีลูกค้านั่งกันประมาณ 20 โต๊ะ


ส่วนนายวุฒิชัย อายุ 42 ปี เพื่อนที่มาด้วยกันกับผู้เสียชีวิต เล่าว่า ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครกันก่อน มานั่งดื่มกินกันปกติ ตอนเกิดเหตุตนเองเต้นอยู่ห่างจากโต๊ะ มารู้อีกทีได้ยินเสียงปืน และเห็นผู้ก่อเหตุเดินมาไล่ยิงเพื่อนของตนแล้ว

เบื้องต้นตำรวจเชิญเพื่อนผู้เสียชีวิต และพนักงานเสิร์ฟของร้าน ทั้งหมด 7 คน ไปสอบปากคำ เบื้องต้นให้การสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันและเป็นประโยชน์กับคดี ส่วนปมสาเหตุคาดว่ามาจากมีเรื่องเขม่นกันภายในร้าน แต่ยังคงไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ทิ้ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน ขณะที่ตำรวจผู้ก่อเหตุยังหลบหนี ตำรวจได้จัดชุดไล่ล่าตัวแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”