กรุงเทพฯ 18 ต.ค. – อัยการ ชี้ “ศรีสุวรรณ” มีสิทธิเดินสายร้องเรียนเรื่องต่างๆ ในสังคมได้ แนะผู้เห็นต่างพึ่งกระบวนการทางกฎหมายตรวจสอบ ไม่ควรใช้ความรุนแรง ขณะที่อาจารย์นิเทศจุฬาฯ ชี้ปกป้องนายกฯ มากไป อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด มองประเด็นนายศรีสุวรรณ จรรยา ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างไปร้องตำรวจให้ตรวจสอบ “โน๊ส – อุดม แต้พานิช” กรณีเดี่ยวไมค์โครโฟน พาดพิงนายกรัฐมนตรีว่า เบื้องต้นไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง เนื่องจากมีกฎหมายไว้ตัดสินปัญหาอยู่แล้ว กรณีนี้ผู้ที่บุกไปทำร้ายนายศรีสุวรรณ สามารถใช้กระบวนการทางกฎหมาย ดำเนินการกับนายศรีสุวรรณได้ ว่า การเข้าร้องตำรวจเป็นการกระทำที่เข้าข่ายแจ้งความเท็จหรือหมิ่นประมาทหรือไม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะไปตรวจสอบ ขณะที่นายศรีสุวรรณ ซึ่งถูกทำร้ายก็สามารถใช้กฎหมาย ดำเนินคดีกับผู้ที่ทำร้ายร่างกายได้เช่นกัน
ส่วนตัวยังมองว่าการเดินสายร้องเรียนเรื่องต่างๆ ของนายศรีสุวรรณ เป็นสิทธิที่สามารถดำเนินการได้ แต่เรื่องที่ร้องต้องมีมูล และข้อเท็จจริงรวมทั้งต้องพิจารณาดูเรื่องที่ร้องด้วยว่า เป็นการร้องลักษณะไหน เช่น ร้องให้ตรวจสอบ แจ้งความดำเนินคดี หรือขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดำเนินการตรวจสอบให้ เป็นต้น
ด้าน รองศาสตราจารย์พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุ เหตุการณ์ถูกทำร้ายร่างกายของนายศรีสุวรรณ จรรยา เกิดมาจากการปกป้องนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ กำกับดูแลเรื่องสาธารณะหลายเรื่อง เช่น ภาษี ซึ่งพฤติกรรมของนายศรีสุวรรณ อาจเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อตัวนายกรัฐมนตรีเองด้วยซ้ำว่าเป็นบุคคลที่แตะต้องไม่ได้ ดังนั้น ปรากฏการณ์ถูกทำร้ายลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นได้อีก ซึ่งเชื่อว่านายศรีสุวรรณ เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองดี
ทั้งนี้ แม้การเดี่ยวไมโครโฟนของ “โน๊ส อุดม” จะเป็นการแสดงในเรื่องที่ตลก ซึ่งทุกสังคมต้องการเรื่องตลก ถ้าหากสังคมไม่มีที่ระบายอาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ แต่เรื่องตลกกับหมิ่นประมาท จะมีเส้นแบ่งที่คาบเกี่ยวกัน ซึ่ง “โน๊ส อุดม” ก็ต้องระมัดระวังให้ดี ต้องพิจารณาว่า บุคคลที่ถูกพาดพิงเป็นบุคคลสาธารณะหรือไม่ ทางออกของเรื่องนี้เสนอว่าควรเปิดพื้นที่ให้วิพากษ์วิจารณ์ได้.-สำนักข่าวไทย