ปารีส 22 เม.ย.- ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หากประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศสนำประเทศออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรโซน (ยูโรโซน) และสหภาพยุโรป (อียู) จะเกิดผลร้ายแรงต่อฝรั่งเศส
ปิแอร์ มาธิออต อาจารย์รัฐศาสตร์ สถาบันการเมืองศึกษาในลิลส์ให้ทัศนะว่า หากนายฌอง ลุก เมลองชง หัวหน้าพรรคอันซับมิสซีฟฟรานซ์ ซึ่งเป็นสายซ้ายชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี ฝรั่งเศสอาจออกจากยูโรโซนและจะก่อให้เกิดผลร้ายแรงติดตามมา เช่น เรื่องหนี้ประเทศที่ปัจจุบันถือครองโดยต่างชาติร้อยละ 60 ฝรั่งเศสต้องกู้ยืมปีละ 60,000 ล้านยูโร (ราว 2.21 ล้านล้านบาท) มาชดเชยส่วนที่ขาดทุน หากออกจากยูโรโซน เครดิตระหว่างประเทศจะลดลง ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น กระทบต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และหากประธานาธิบดีคนใหม่ไม่สนับสนุนอียู ฝรั่งเศสก็เสี่ยงเป็นปฏิปักษ์กับเยอรมนีที่มีพันธมิตรในอียู และจะมีผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจประเทศ
ผลการหยั่งเสียงชาวฝรั่งเศสพบว่า ผู้สมัครที่มีคะแนนนิยมสูงสุด 4 คนแรกได้แก่นางมารีน เลอ เปน สายขวาจัด นายเอ็มมานูเอล มาครง สายกลาง นายฟรองซัวส์ ฟียง สายอนุรักษ์นิยม และนายเมลองชง สายซ้าย หากไม่มีผู้สมัครคนใดได้เสียงเกินครึ่งในการเลือกตั้งรอบแรกวันที่ 23 เมษายนนี้ ผู้สมัครที่ได้คะแนนมากที่สุดสองคนจะไปชิงชัยในวันที่ 7 พฤษภาคม นางเลอ เปนประกาศจะนำฝรั่งเศสออกจากอียู ขณะที่นายมาลองชงพร้อมนำประเทศออกจากอียูหากสมาชิกอื่น ๆ ไม่ยอมปฏิรูป.-สำนักข่าวไทย