กรุงเทพฯ 3 ต.ค.- กรมชลประทาน เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำแม่น้ำยมที่ไหลผ่านเขตเมืองสุโขทัยใกล้ชิด เนื่องจากปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์วิกฤติ ใกล้เกินความจุลำน้ำ จังหวัดสุโขทัยแจ้งเตือนประชาชนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด หากมีฝนตกเพิ่มอาจทำให้น้ำล้นตลิ่งได้
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สั่งการให้โครงการชลประทานสุโขทัย สำนักงานชลประทานที่ 4 เฝ้าระวังระดับและปริมาณน้ำแม่น้ำยมที่ไหลผ่านเขตเทศบาลเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งลำน้ำแคบ รับน้ำได้เพียง 510 ลบ.ม./วินาที แต่ขณะนี้ปริมาณน้ำไหลผ่าน 480-490 ลบ.ม./วินาที
สาเหตุที่ปริมาณน้ำแม่น้ำยมสูงขึ้นต่อเนื่อง เป็นเพราะมีฝนตกสะสมบริเวณต้นน้ำแม่น้ำยม ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน เสริมด้วยฝนที่ตกหนักจากอิทธิพลของพายุ “โนรู” ระหว่างวันที่ 28-30 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้มีปริมาณน้ำสูงสุดไหลผ่านสถานีวัดน้ำ Y.14A อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ในวันที่ 2 ตุลาคม ในอัตรา 1,180 ลบ.ม./วินาที แล้วไหลต่อมายังประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ อำเภอสวรรคโลก ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่กรมชลประทานใช้ตัดยอดน้ำ ก่อนไหลเข้าสู่เขตอำเภอเมืองสุโขทัย
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 4 ได้แบ่งน้ำแม่น้ำยมก่อนถึงประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ไปทางประตูระบายน้ำคลองหกบาท เพื่อระบายน้ำลงสู่คลองผันน้ำยมน่านและแม่น้ำยมสายเก่า โดยอัตราการระบายเกินกว่าเกณฑ์ที่ประตูระบายน้ำคลองหกบาทรับได้ จาก 250 ลบ.ม./วินาที เป็น 390 ลบ.ม./วินาทีแล้ว ทำให้น้ำไหลผ่านประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์สูงสุด 812 ลบ.ม./วินาที เมื่อเวลา 01.00 น. คืนที่ผ่านมา แล้วไหลผ่านเขตเมืองสุโขทัย ในอัตราสูงสุด 497 ลบ.ม./วินาที ในเวลา 04.00 น. โดยโครงการชลประทานสุโขทัย และจังหวัดสุโขทัย ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และเฝ้าระวังระดับและปริมาณน้ำที่อยู่ในเกณฑ์วิกฤติ
ขณะนี้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขตเมืองสุโขทัยทรงตัว แต่ยังมีฝนตกในอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ อาจทำให้มีน้ำไหลลงมาเติมได้ กรมชลประทานจึงเฝ้าระวังต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ เข้าไปเสริมศักยภาพการระบาย และพร้อมบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที.-สำนักข่าวไทย