รอยเตอร์อ้างตำรวจฟิลิปปินส์ว่าสงครามยาเสพติดเป็นการจัดฉากฆ่า

มะนิลา 19 เม.ย.- สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างตำรวจฟิลิปปินส์ระดับสูง 2 นายว่า สงครามกวาดล้างยาเสพติดของรัฐบาลประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตมีการตบรางวัลตำรวจที่สังหารผู้ต้องสงสัย เป็นเหตุให้ตำรวจจัดฉากฆ่าคน


แหล่งข่าวซึ่งเป็นตำรวจข่าวกรองเกษียณแล้วและผู้บังคับการตำรวจที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่เผยรายละเอียดกับรอยเตอร์ว่า การสังหารผู้ต้องสงสัยร่วม 9,000 คนนับตั้งแต่นายดูเตอร์เตเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนล้วนเป็นการจัดฉากของตำรวจและเป็นการสังหารแบบศาลเตี้ย ไม่ใช่การล่อซื้อตามที่ตำรวจอ้างว่ายิงสังหารผู้ต้องสงสัยกว่า 2,600 คนที่เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบก่อน ผู้ค้ายาเสพติดรู้จักตำรวจดีจึงไม่มีทางติดกับอย่างแน่นอน ตำรวจและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจึงเขียนรายชื่อเป้าหมายสังหารขึ้นมา ปิดกล้องวงจรปิดและไฟถนนในจุดสังหารที่เลือกไว้เพื่อไม่ให้มีหลักฐาน จากนั้นจะยัดอาวุธและยาเสพติดไว้ที่ตัวเป้าหมายหลังสังหารเพื่อจัดฉากสร้างความชอบธรรม  

ตำรวจที่ทำงานเหล่านี้มักเป็นตำรวจมือใหม่ที่อยากหาประสบการณ์หรือได้รับมอบหมายจากหัวหน้า โดยจะได้รับการตบรางวัลอย่างรวดเร็วขึ้นกับบทบาทในการสังหารและค่าหัวของเป้าหมาย มีตั้งแต่ 20,000 เปโซ (ราว 13,800 บาท) หากเป็นเป้าหมายพื้น ๆ ไปจนถึง 5 ล้านเปโซ (ราว 3.45 ล้านบาท) หากเป็นหัวหน้าแก๊ง นอกจากเงินรางวัลแล้ว ตำรวจที่ร่วมขบวนการศาลเตี้ยยังทำไปเพราะกลัวตนเองจะตกอยู่ในรายชื่อเป้าหมายสังหารด้วยหากไม่ให้ความร่วมมือ ส่วนเรื่องที่รัฐบาลอ้างว่า โครงการกวาดล้างประสบความสำเร็จเพราะมีผู้ค้าและผู้เสพเข้ามอบตัวด้วยความสมัครใจกว่าล้านคนนั้น ตำรวจได้รับโควตาให้หาคนจรจัดหรือคนเมามาบังคับขึ้นทะเบียนเป็นผู้ต้องสงสัยทั้งนั้น


ตำรวจข่าวกรองเกษียณแล้วได้จัดทำรายงานหนา 26 หน้าชื่อ “การสังหารนอกกฎหมายในฟิลิปปินส์ที่รัฐหนุนหลัง” แจกแจงรายละเอียดวิธีการ ผู้บงการและผู้คบคิดในการจัดฉากฆ่า โดยได้มอบให้ศาสนจักรคาทอลิกในฟิลิปปินส์และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนในสังกัดรัฐบาลแล้ว อย่างไรก็ดี รายงานไม่มีหลักฐานที่เป็นเอกสาร แต่อ้างจากการให้ปากคำของตำรวจทั้งอดีตและปัจจุบัน 17 นาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง