เมืองทองฯ 15 ก.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์ประกาศไทยพร้อมเป็นฮับด้านสุขภาพ-ความงาม อาเซียนเปิดงาน “คอสโมพรอฟ” ครั้งแรกในไทย ชี้ช่วง 7 เดือนแรก 65 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ความงามแล้วกว่า 64,850 ล้านบาท
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน COSMOPROF CBE ASEAN Bangkok 2022 ที่ Hall 9-10 ศูนย์และการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมกับนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดูแลสุขภาพและความงาม ข้อมูลจาก Euromonitor โดยอุตสาหกรรมความงามโลกในปีที่แล้ว มีมูลค่าสูงถึง 18.5 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3% โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 36% สินค้าสำคัญที่ขยายตัวสูงของโลกมี 2 ตัวหลัก คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกับเครื่องสำอาง ประเทศไทยเป็นตลาดอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามที่สำคัญ ปีที่แล้วอุตสาหกรรมด้านนี้มีมูลค่าถึง 221,000 ล้านบาท เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 88,766 ล้านบาท
ทั้งนี้ ประเทศไทยถือว่าเป็นศูนย์กลางการอุตสาหกรรมความงามที่สำคัญ ผลิตภัณฑ์ที่ Made in Thailand ถือว่าได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน 7 เดือนแรกของปีนี้ ประเทศไทยส่งออกผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมด้านความงามบำรุงผิวแล้วถึง 64,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 22% ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับตัวเลขการส่งออกส่วนนี้มาก ถือว่าผลิตภัณฑ์ด้านความงามเป็นส่วนหนึ่งของ Bio Economy ไม่ว่าจะเป็นอาหารยาและเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ความงามยิ่งให้ความสำคัญกับการใช้สมุนไพร การใช้ Bio เป็นด้านหลักในส่วนผสม เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านนี้
สำหรับงาน COSMOPROF ASIA กระทรวงพาณิชย์นำภาคธุรกิจเข้าร่วมงานทุกปีที่ฮ่องกง เริ่มงานมาแล้ว 21 ครั้ง โดยปี 62 คือครั้งล่าสุดก่อนเกิดโควิด-19 เข้าร่วม 36 บริษัท สามารถทำมูลค่าให้กลับประเทศได้ไม่น้อย สำหรับงาน COSMOPROF CBE ASEAN Bangkok 2022 วันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในประเทศไทย เป็นงานที่มีความสำคัญและเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งให้กับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางความงามของประเทศไทย ถือว่าเป็นการนับหนึ่งให้กับอุตสาหกรรมนี้ของประเทศที่มีศักยภาพต่อไป ซึ่งในงานมีทั้งเป็นผู้ส่งออกผู้นำเข้าและผู้บริโภคจากทุกภูมิภาคเข้าร่วม แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมนี้มีศักยภาพ จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพต่อ และจัดขึ้นที่ประเทศไทยครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและสัมมนาด้านสุขภาพและความงามที่มีชื่อเสียงในระดับโลก
โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยแจ้งว่า มีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานจำนวน มากกว่า 500 บริษัท และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานจำนวนถึง 8,000 ราย งานจัดระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน 2565 เป็นเวลา 3 วัน เพื่อ 1.ขยายตลาดสินค้าและบริการของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย 2.พัฒนาและส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและธุรกิจบริการเพื่อการส่งออก 3.เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยในตลาดอาเซียนและตลาดโลก และ 4.กระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นต่อคุณภาพสินค้าในอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพและความงามของไทยอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย