รัฐสภา 14 ก.ย.-ที่ประชุมสภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ลงมติไม่คิดดอกเบี้ยและค่าปรับเงินกู้ กยศ.
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (14 ก.ย.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นการลงมติในมาตรา 17 เรื่องการคิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่ตกค้างมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ประชุมลงมติไม่เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมากที่ให้คิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา 0.25% แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะไม่ให้คิดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับล่าช้า ตามที่นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เสนอแก้ไขมา หรือจะให้คิดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับล่าช้าในอัตราอื่น ๆ ที่แตกต่างจาก กมธ.เสียงข้างมากเสนอ
ทั้งนี้ มีผู้เสนอมา 3 แนวทาง คือ 1. ร่างของนายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และคณะ เสนอให้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี 2. ร่างของนายจุมพล นิติธรางกูร กมธ.เสียงข้างน้อย ที่เสนอให้คิดดอกเบี้ย 2% และเบี้ยปรับล่าช้า 1% 3. ร่างของ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เสนอให้คิดดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี แต่ให้เริ่มชำระเมื่อผู้กู้ยืมมีเงินได้พึงประเมินเพียงพอจะเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในระยะเวลา 30 ปี ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับร่างของนายอุบลศักดิ์ ที่ไม่ให้คิดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับล่าช้าเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ด้วยคะแนน 218 ต่อ 109 งดออกเสียง 53 ไม่ลงคะแนน 1
ด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย พร้อม ส.ส.พรรคภูมิใจไทย แถลงขอบคุณ ส.ส.ที่ลงมติให้ เพราะยืนยันมาตลอดว่า มีจุดยืนเรื่องการพิจารณาพระราชบัญญัติ กยศ. ว่าคนเป็นหนี้ต้องใช้ดอกเบี้ย 0% เบี้ยปรับต้องไม่มี และต้องไม่มีผู้ค้ำประกัน ซึ่งพรรคเห็นถึงความสำคัญของกองทุนนี้ ส่วนที่หลายคนเป็นห่วงว่า หากไม่คิดอัตราดอกเบี้ยแล้วจะทำให้ผู้กู้เสียวินัยหรือไม่ หรือ กยศ.ต้องล้มไปในอนาคตหรือไม่ ยืนยันว่า กยศ.มีมูลค่า 4-5 แสนล้านบาท หากผู้บริหารสามารถจัดการกองทุนให้ดีก็สามารถทำให้ยืนหยัดต่อไปได้ และเชื่อว่าผู้ที่กู้ไม่มีใครต้องการเบี้ยวหนี้ หากมีกำลังชำระหนี้.-สำนักข่าวไทย