ไทยพร้อมเปิดรับต่างชาติศักยภาพสูง 4 กลุ่มยื่นขอ LTR Visa

ทำเนียบ 3 ก.ย.- รองโฆษกรัฐบาล ชี้ประเทศไทยพร้อมแล้ว เปิดรับต่างชาติศักยภาพสูง 4 กลุ่มยื่นขอ LTR Visa เพิ่มกำลังใช้จ่ายฟื้นเศรษฐกิจ เสริมศักยภาพภาพอุตสาหกรรมใหม่ด้วยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย โดยอนุญาตให้กลุ่มที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่ม สามารถเข้ามาในประเทศไทยเป็นกรณีพิเศษเพื่อการพำนักระยะยาว ผ่านการให้วีซ่าประเภท Long – Term Resident Visa หรือ LTR Visa ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ได้เตรียมการทั้งที่เกี่ยวกับข้อกฎหมายและงานระบบอำนวยความสะดวกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ทั้งนี้ สำนักงานบีโอไอซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่คัดกรองบุคคลต่างชาติศักยภาพสูงที่ประสงค์จะเข้ามาพำนักในประเทศไทยได้เปิดระบบให้มีการยื่นขอ LTR Visa ผ่านเว็บไซต์  https://ltr.boi.go.th ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 65 เป็นต้นไป

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า มาตรการดึงดูดชาวต่างชาติศักยภาพสูงเป็นหนึ่งในมาตรการที่ได้รับการผลักดันจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด19 หรือ ศบศ. เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยภายหลังการระบาดใหญ่ ซึ่งรัฐบาลต้องการให้มาตรการนี้เป็นทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายของต่างชาติที่กำลังซื้อสูง และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายและเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากมาตรการนี้ได้ดึงดูดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญสูงในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่เข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้นด้วย


สำหรับชาวต่างชาติ 4 กลุ่มที่เป็นเป้าหมายที่ประเทศไทยจะดึงดูดให้มาถือ LTR Visa ได้แก่ กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ  กลุ่มผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ โดยจะให้สิทธิประโยชน์ ประกอบด้วย สิทธิพำนักในประเทศไทย 10 ปี สามารถใช้ช่องทางพิเศษ (Fast Track) ในการเข้าออกราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศ รายงานตัวทุก1 ปี (จากเดิมทุก 90 วัน) และไม่ต้องยื่นขออนุญาตกลับเข้ามาในราชอาณาจักร (Re-entry permit) อนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย โดยลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือร้อยละ 17 สำหรับกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ และมีผู้ติดตามได้ 4 คน

“รัฐบาลได้เตรียมการในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยต่อเนื่อง เพื่อให้มาตรการนี้สามารถดึงดูดชาวต่างชาติทั้ง 4 กลุ่มเข้ามายังประเทศไทยให้ได้ตามเป้าหมาย 1 ล้านคนภายใน5ปี โดยในส่วนของสำนักงานบีโอไอ ซึ่งจะเป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่คัดกรองผู้ยื่นขอ LTR-Visa  เมื่อไม่นานมานี้ ครม. ก็ได้เห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างภายในของบีโอไอ โดยจัดตั้งส่วนราชการระดับกองขึ้นใหม่ 2 ส่วน คือ กองบริการบุคลากรต่างชาติ และ กองเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้บีโอไอดูแลภารกิจดูแลชาวต่างชาติรวมถึงการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมและบริการใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง