กทม. 13 เม.ย.-จำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับคุณภาพชีวิตในยามชรา ซึ่งรัฐและเอกชนเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย จึงได้ปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ นายกรัฐมนตรีขอให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยไปลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ซึ่งยอดล่าสุดมีผู้มาลงทะเบียนกว่า 2.2 ล้านคน วันนี้นอกจากจะเป็นวันสงกรานต์แล้ว ยังเป็นวันผู้สูงอายุด้วย และรัฐบาลชุดปัจจุบันให้ความสำคัญอย่างมากกับการดูแลผู้สูงอายุ และมีมาตรการเพื่อดูแลผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดกรมธนารักษ์ประกาศร่วมมือกับโรงพยาบาลรามาธิบดี สร้างคอมเพล็กซ์ซีเนียร์ จัดสถานที่พักอาศัยอยู่ในศูนย์รวมเดียวกัน แบ่งแยกผู้สูงอายุเป็นกลุ่ม ตั้งแต่การดูแลตนเองได้ จนไปถึงผู้ป่วยติดเตียง จากนั้นขยายความร่วมมือกับโรงพยาบาลวชิระ จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งที่เชียงใหม่
ส่วนธนาคารอาคารสงเคราะห์จับมือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สร้างที่พักอาศัยให้กับผู้สูงอายุและข้าราชการของกระทรวง โดยให้สินเชื่อให้กับรายย่อยวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท และยังมีโครงการดูแลผู้สูงอายุที่บางละมุง จ.ชลบุรี และโครงการบ้านบางแค
ในขณะที่เอกชนก็เริ่มปรับธุรกิจเพื่อรองรับแนวโน้มของจำนวนผู้สูงอายุในไทยที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในแง่ของที่อยู่อาศัย คุณอิสระบอกว่าแนวโน้มของบ้านที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานเพื่อผู้สูงอายุจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้จะเป็นบ้านเก่า แต่ก็สามารถปรับแต่งเพื่อให้เหมาะกับอยู่อาศัยของผู้สูงอายุได้ โดยหลักการเบื้องต้นคือ ห้องนอนจะต้องอยู่ชั้นล่าง และมีอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกและอำนวยความปลอดภัยไปพร้อมกันๆ เช่น อุปกรณ์ในห้องน้ำ ที่ทั้งอำนวยความสะดวกและให้ความปลอดภัย หรืออุปกรณ์เตือนภัยที่สามารถส่งสัญญาณดังไปทั่วบ้าน และส่งไปถึงสมาร์ทโฟนของลูกหลานที่อยู่นอกบ้านได้ด้วย
ส่วนเรื่องราคาหรืออุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านเพื่อผู้สูงอายุ ยืนยันว่าไม่ได้แพงมากเหมือนที่หลายๆ คนคิด สังคมไทยที่เปลี่ยนเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คือแนวโน้มที่เกิดขึ้นแล้วและจะขยายออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น การเตรียมพร้อมทั้งสภาพร่างกาย จิตใจ และความเป็นอยู่ จึงเป็นสิ่งที่ต้องเริ่มคิดตั้งแต่วันนี้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน.-สำนักข่าวไทย